การเฝ้าระวังน้ำท่วมเมืองชุมพร
สภาพภูมิประเทศ
สภาพพื้นที่ของจังหวัดชุมพรแบ่งเป็น 3
ลักษณะใหญ่ๆ
คือ
พื้นที่สูงและภูเขาทางทิศตะวันตก
พื้นที่ราบตอนกลาง
และพื้นที่ราบชายฝั่งทะเล
พื้นที่ทางทิศตะวันตกเป็นที่สูงมีทิวเขาตะนาวศรีกั้นอยู่ ซึ่งเป็นแนวพรมแดนทางธรรมชาติระหว่างประเทศ
ถัดจากแนวที่สูงมาทางตะวันออกเป็นที่ราบตอนกลาง ซึ่งมีลักษณะเป็นที่ราบลูกคลื่นและที่ราบลุ่ม
เป็นเขตเกษตรกรรมที่สำคัญ
สำหรับพื้นที่ทางตะวันออกเป็นที่ราบชายฝั่งทะเล ลักษณะชายหาดทะเลของชุมพรค่อนข้างเรียบมีความโค้งเว้าน้อย หาดทรายกว้างและมีความลาดชันน้อย
จังหวัดชุมพรอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ
ตามระยะทางหลวงแผ่นดินเพชรเกษมประมาณ 498 กิโลเมตร ทางรถไฟประมาณ 476 กิโลเมตร
ชุมพร มีภูมิอากาศแบบมรสุมเมืองร้อน โดยอยู่ใต้อิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มี 2 ฤดู คือฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือน
กุมภาพันธ์ พฤษภาคม และฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือน มิถุนายน มกราคม
ซึ่งเป็นช่วงที่ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดพาดผ่านอ่าวไทยเข้าสู่ภาคใต้ เป็นมวลอากาศที่มีความชื้นสูง ดังนั้น เมื่อปะทะแนวเทือกเขาตะนาวศรี จึงทำให้ฝนตกชุกตลอดพื้นที่จังหวัด ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย
2029 มิลลิเมตรต่อปี
จากสภาพภูมิประเทศของที่ตั้งตัวเมืองชุมพร ซึ่งอยู่ในที่ราบลุ่ม สองฝั่งคลองท่าตะเภา ซึ่งคลองท่าตะเภานี้เป็นแม่น้ำสายหลักของเมืองชุมพร มีความลาดชันมาก มีต้นน้ำอยู่ที่ตำบลนากระตาม มีลำน้ำสาขาที่สำคัญ 2 สาย
คือ คลองท่าแซะ ต้นน้ำเกิดจากเทือกเขาในเขตอำเภอบางสะพานน้อย
จ.ประจวบคีรีขันธ์ และคลองรับร่อ
ต้นน้ำเกิดจากเทือกเขาตะนาวศรี
เขตแดนไทย พม่า อ.ท่าแซะ
จ.ชุมพร ไหลมารวมกันเป็นคลองท่าตะเภา
ที่บ้านวังครก อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
มีพื้นที่รับน้ำฝนตั้งแต่ต้นน้ำทั้งสองจนถึงบ้านวังครก 1,819 ตร.กม. หรือพื้นที่ลุ่มน้ำรวมทั้งหมดเหนือเทศบาลเมืองชุมพร 2,045 ตร.กม. ปริมาณน้ำของคลองท่าตะเภา จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณฝน
ที่ได้รับจากอิทธิพล
ของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
ซึ่งพัดผ่านระหว่างกลางเดือน
พฤษภาคม
ถึงกลางเดือนตุลาคม
หรือพายุหมุนเขตร้อนและความกดอากาศต่ำซึ่งพัดผ่านประมาณเดือน พฤศจิกายน
ถึงธันวาคมเป็นสำคัญ เมื่อใดที่เกิดฝนตกหนัก หรือตกติดต่อกันยาวนานในเขตพื้นที่ต้นน้ำ น้ำฝนจะรวมตัวไหลหลากลงมาตาม ค.ท่าแซะ และ ค.ท่าตะเภา
จนถึงเมืองชุมพร
ถ้ามีปริมาณน้ำมากจนเกินความจุของคลองที่จะรับได้ก็จะไหลบ่าล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนที่อยู่อาศัยย่านธุรกิจการค้า
ตลอดจนเส้นทางคมนาคมสร้างความเดือดร้อนเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยทั่วไป
เพื่อป้องกันและบรรเทาความสูญเสียจากภัยธรรมชาติดังกล่าว การเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาที่เหมะสมจึงมีความสำคัญมากที่จะช่วยให้แจ้งข่าวสารที่ถูกต้องแก่ประชาชนอย่างรวมเร็วทันเหตุการณ์
เพื่อที่จะเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์และป้องกันความเสียหายได้ทันที โดยอาศัยการติดตามข้อมูล
สภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา สภาพน้ำฝนรายวันใน 11 สถานีที่ครอบคลุมทั้งลุ่มน้ำ
และสภาพน้ำท่ารายวันตามสถานีวัดน้ำหลัก จำนวน 7
สถานี ซึ่งมีรายละเอียดตามรายงานสภาพน้ำในลุ่มน้ำท่าตะเภา
จ.ชุมพร
--------------------------------------------------