+1                    ศูนย์ประสานและติดตามสถานการณ์น้ำ  กรมชลประทาน  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

                    โทรศัพท์  0-2243-6956    โทรสาร 0-2243-6956, 0-2241-3350

                        Webpage : http://www.rid.go.th/flood ,   E-mail : flood44@mail.rid.go.th

_________________________________________________________

สรุปสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝนปี 2549

วันที่  1 ตุลาคม 2549

1.สภาพภูมิอากาศ


เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (1 ตุลาคม 2549) พายุไต้ฝุ่น “ช้างสาร” ในทะเลจีนใต้มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 400 กิโลเมตร ทางตะวันออกของจังหวัดอุบลราชธานี หรือ ที่ละติจูด 16.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 109.2 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 165 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามบริเวณเมืองดานังประมาณเที่ยงของวันนี้ (1 ตุลาคม 2549) และจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยในแนวระหว่างจังหวัดมุกดาหารกับอุบลราชธานีในระยะต่อไป ลักษณะเช่นนี้จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมาก พายุลมแรง และเกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากโดยจะเริ่มทางด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อนภาคอื่นๆ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวมาระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักและพายุลมแรงในช่วงวันที่ 1 - 4 ตุลาคม 2549

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ ภาคตะวันออก และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ และภาคตะวันออก มีฝนหนักถึงหนักมาก เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด ระนอง ชุมพร และพังงา สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามัน จะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 1 - 4 ตุลาคม 2549 นี้

2. สภาพฝน

ปริมาณฝนวันที่ 30 ก.ย. 49 อยู่ในเกณฑ์ฝนตกหนัก (สูงกว่า 35 มม. )  วัดได้ 

                        จ.กรุงเทพฯ                     เขตบางนา                      95.3     มม.

                        จ.ปราจีนบุรี                    อ.เมือง                          39.5      มม.

                        จ.พังงา                          อ.ตะกั่วป่า                      36.6      มม.

                        จ.ภูเก็ต                          อ.เมือง                          36.0      มม.

                                                            ท่าอากาศยานภูเก็ต         67.5      มม.

3. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ

สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ (1 ต.ค.49 ) มีปริมาตรน้ำในอ่างฯทั้งหมด 60,368 ล้าน ลบ.. หรือคิดเป็นร้อยละ 88 ของความจุอ่างฯทั้งหมด มากกว่าปี 2548 (52,616 ล้านลูกบาศก์เมตร )  จำนวน 7,752 ล้าน   ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 11 ของความจุอ่างฯทั้งหมด 

อ่างเก็บน้ำภูมิพล (1 ต.ค.49) มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 12,621 ล้าน ลบ.ม. (รับได้อีก 841 ล้าน ลบ.ม.)      คิดเป็นร้อยละ  94  ของความจุอ่างฯทั้งหมด

            อ่างเก็บน้ำสิริกิติ์ (1 ต.ค.49)  มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ  8,962 ล้าน ลบ..(รับได้อีก 548 ล้านลบ.ม.)  คิดเป็นร้อยละ 94 ของความจุอ่างฯทั้งหมด

              อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน  (1 ต.ค.49) ปัจจุบันมีปริมาตรน้ำ 585 ล้าน ลบ.ม.(รับได้อีก 125 ล้านลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 82 ของความจุอ่างฯทั้งหมด  มีการระบายน้ำ จำนวน 104.00 ลบ.ม./วินาที  และ  ระบายน้ำโดยวิธีกาลักน้ำได้ 3.30  ลบ.ม./วินาที (วางท่อ 10 แถว) รวมระบายน้ำทั้งหมด จำนวน 107.30 ลบ.ม./วินาที เพื่อพร่องน้ำในอ่างฯไว้รอรับน้ำหลากในช่วงฝนชุก

4. สภาพน้ำท่า

              สภาพน้ำท่าในลำน้ำที่อยู่ในเกณฑ์มาก  และต้องเฝ้าระวัง มีดังนี้       

              แม่น้ำลี้  ลำน้ำสาขาแม่น้ำปิง

              - สถานี P.76 บ้านอีไฮต์ อ.ลี้ จ.ลำพูน  มีระดับต่ำกว่าตลิ่ง 0.23ม. ลดลงจากวันก่อน 0.30 ม.  ปริมาณน้ำไหลผ่าน 93 ลบ.ม./วินาที  แนวโน้มลดลง

แม่น้ำปิง

              -  สถานี P.17 บ้านท่างิ้ว อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์  มีระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.46 ม. เท่ากับวันก่อน ปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,735 ลบ.ม./วินาที  แนวโน้มทรงตัว

              แม่น้ำวัง  

              -  ที่สถานี W.4A  อ.สามเงา จ.ตาก ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.18 ม.  ลดลงวันก่อน 0.05 ม.  ปริมาณน้ำไหลผ่าน 429.5 ลบ.ม./วินาที  แนวโน้มลดลง

              แม่น้ำยม  สภาพน้ำท่าส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์มาก  ส่วนในบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำ ตั้งแต่ อ.กงไกรลาศ              จ.สุโขทัย (ระดับน้ำเริ่มลดลง)  อ.เมือง อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย  และ บางพื้นที่ใน   จ.พิจิตร ยังมีน้ำท่วมขัง 

              - ที่สถานี Y16 บ้านบางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 3.97ม.  เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 0.07 ม. ปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,214 ลบ.ม./วินาที  แนวโน้มเพิ่มขึ้น

              - ที่สถานี Y17บ้านสามง่าม อ.สามง่าม จ.พิจิตร ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.94 ม.   เพิ่มขึ้นจากวันก่อน0.03  ม.ปริมาณน้ำไหลผ่าน 455 ลบ.ม./วินาที  แนวโน้มเพิ่มขึ้น

              แม่น้ำน่าน  สภาพน้ำท่าในลำน้ำตอนบนอยู่ในเกณฑ์ปกติ  ส่วนในลำน้ำตอนล่าง ตั้งแต่ จ.พิจิตร          ลงมาถึง จ.นครสวรรค์ สภาพน้ำท่าอยู่ในเกณฑ์มาก

              - ที่สถานี  N8A บ้านบางมูลนาก อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.25 ม.  ลดลงจากวันก่อน  0.01 ม. ปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,296.4  ลบ.ม./วินาที  แนวโน้มลดลง

              - ที่สถานี  N67 สะพานบ้านเกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์  ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.56 ม.  เท่ากับวันก่อน  ปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,478 ลบ.ม./วินาที  แนวโน้มทรงตัว

              แม่น้ำป่าสัก  บ้านบ่อวัง (S.42) อ.วิเชียรบุรี  จ.เพชรบูรณ์ ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง  1.22 ม. ลดลงจากวันก่อน  0.02 ม.ปริมาณน้ำไหลผ่าน 357.6 ลบ.ม./วินาที  แนวโน้มลดลง

แม่น้ำเจ้าพระยา วันนี้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ 3,300 ลบ../วินาที (เวลา 06.00น.) ปัจจุบันมีระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยา +16.53.(รทก.) โดยมีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,506 ลบ../วินาที(เวลา 06.00น.)  ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหก 352 ลบ.ม./วินาที  ทำให้ปริมาณน้ำที่ อ.บางไทร จ.อยุธยา อยู่ในเกณฑ์ 2,858ลบ.ม./วินาที  ซึ่งจะมีผลกระทบในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เป็นพื้นที่น้ำท่วมเหมือนกับทุกๆปีที่เคยเกิด   

ทั้งนี้ กรมชลประทานได้บริหารจัดการน้ำในการควบคุมน้ำหลาก โดยเพิ่มการรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา (วันที่ 1 ตุลาคม 2549 รับน้ำเข้าทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก 379 ลบ../วินาที  และทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก 202 ลบ../วินาที) ไม่ให้เกิดผลกระทบกับพื้นที่ในทุ่งเจ้าพระยาทั้งสองฝั่ง ผ่านประตูระบายน้ำปากแม่น้ำน้อย แม่น้ำสุพรรณ และคลองชัยนาท-ป่าสัก

ระดับน้ำที่จุดเฝ้าระวังในพื้นที่ กรุงเทพฯ

1 คลองแสนแสบ  ที่ ปตร.มีนบุรี  ระดับตลิ่ง  + 1.35 ม.(รทก.) ระดับปัจจุบัน  1.35 ม.(รทก.) เท่ากับระดับตลิ่ง

2 คลองประเวศบุรีรัมย์  ที่ ปตร. ลาดกระบัง  ระดับตลิ่ง + 0.8 ม.(รทก.) ระดับปัจจุบัน  0.87  ม.(รทก.)

สูงกว่าตลิ่ง 0.07 ม.

3 คลองสำโรง  ที่ ปตร.บางพลี  ระดับตลิ่ง + 0.60 ม.(รทก) ระดับปัจจุบัน   0.52 ม.(รทก.)  ต่ำกว่าตลิ่ง  0.08 ม.

นอกจากนี้ในพื้นที่ทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่างได้มีการระบายน้ำและสูบน้ำลงแม่น้ำนครนายก     วันละ  1.56 ล้านลูกบาศก์เมตร  ระบายและสูบน้ำลงแม่น้ำบางประกงวันละ  6.35 ล้านลูกบาศก์เมตร  ระบายและสูบออกทะเลวันละ 20.42 ล้านลูกบาศก์เมตร  และ  ในพื้นที่ทุ่งฝั่งตะวันตกมีการระบายน้ำและสูบน้ำออกสู่          แม่น้ำท่าจีน วันละ  8.41 ล้านลูกบาศก์เมตร   ส่วนในแม่น้ำเจ้าพระยามีโครงการลัดโพธิ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้มีการเปิดปิดบานโดยการระบายน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้เร็วขึ้น  ซึ่งจะเปิดบานระบายน้ำในช่วงน้ำทะเลลง และปิดบานระบายในช่วงน้ำทะเลขึ้น   วันนี้ (1 ต.ค.49) สามารถระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ลงแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง จำนวน 12 ชั่วโมง  โดยมีปริมาณน้ำผ่านสูงสุด ประมาณ 500 ลบ.ม..วินาที 

                -  ที่ จ.ชัยนาท  ที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา(C13) อ.สรรพยา  มีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 0.92 ม. เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 0.20 ม.  ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,506 ลบ.ม./วินาที  แนวโน้มเพิ่มขึ้น

                -  ที่ จ. อ่างทอง บ้านบางแก้ว (C7A) อ.เมือง มีระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.90 ม.( 30 ก.ย.49 )สูงขึ้นจากวันก่อน 0.18ม.(29 ก.ย.49) ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,597 ลบ.ม./วินาที   แนวโน้มเพิ่มขึ้น

                -  ที่ จ.อยุธยา  สะพานรถยนต์ (C35)  อ.พระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 0.19 ม. สูงขึ้นจากวันก่อน 0.13 ม.  แนวโน้มเพิ่มขึ้นึ

                จากโครงการหาความสัมพันธ์ของระดับน้ำและปริมาณน้ำปากแม่น้ำเจ้าพระยา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สามารถตรวจวัดระดับน้ำและคาดการณ์ระดับน้ำล่วงหน้าได้ ดังนี้

                 -  ระดับน้ำที่สถานีปทุมธานี (สถานี C.55 ระดับตลิ่ง 2.04 ม.รทก.) เมื่อวาน (30 ก.ย.49) ระดับน้ำสูงสุด 2.12 ม.รทก.    คาดการณ์ว่า วันนี้ (1 ต.ค.49) ระดับน้ำสูงสุด 2.16 ม.รทก. เวลา 23.45 น.     คาดว่าพรุ่งนี้

(2 ต.ค.49) ระดับน้ำสูงสุด 2.24 เวลา 23.45 น. 

                -  ระดับน้ำที่สถานีสะพานพุทธยอดฟ้า (สถานี C.4 ระดับตลิ่ง 3.00 ม.รทก.) เมื่อวาน (30 ก.ย.49) ระดับน้ำสูงสุด 1.46 ม.รทก.  คาดการณ์ว่า วันนี้ (1 ต.ค.49) ระดับน้ำสูงสุด 1.35 ม.รทก. เวลา 21.00 น.  คาดว่าพรุ่งนี้ (2 ต.ค.49) ระดับน้ำสูงสุด 1.49 เวลา 18.00 น. 

                แม่น้ำชี  ที่สถานี บ้านค่าย (E.23) อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.05 ม. ลดลงจากวันก่อน 0.02 ม. ปริมาณน้ำไหลผ่าน 148.3 ลบ.ม./วินาที  แนวโน้มลดลง 

              แม่น้ำเพชรบุรี  สภาพน้ำท่าที่สถานี บ้านสองพี่น้อง (B.3A) บริเวณท้ายเขื่อนแก่งกระจาน มีระดับน้ำ 2.62ม. ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 1.78 ม.  ที่เขื่อนเพชร ปัจจุบันมีการระบาย 60.30 ลบ.ม./วินาที

5. สถานการณ์น้ำท่วม

จังหวัดสุโขทัย น้ำท่วม 5 อำเภอ  ได้แก่

อำเภอสวรรคโลก มีน้ำท่วมใน 10 ตำบล ได้แก่ ต.ป่าภุมเกาะ ต.ในเมือง ต.วังไม้ขอน ต.นาทุ่ง            ต.ย่านยาว ต.คลองกระจง ต.ท่าทอง  ต.เมืองบางยม ต.เมืองบางขลัง  และ ต.หนองกลับ

อำเภอศรีสำโรง  มีน้ำท่วมใน 12 ตำบล ได้แก่  ต.สามเรือน ต.วัดเกาะ ต.บ้านนา ต.วังทอง  ต.วังใหญ่  ต.คลองตาล  ต.ทับผึ้ง  ต.บ้านไร่  ต.บ้านซ่าน  ต.ราวต้นจันทร์  ต.เกาะตาเลี้ยง  และ ต.วังลึก

อำเภอเมือง ยังคงมีน้ำท่วมขังใน 8 ตำบล 1 เทศบาล ได้แก่ ต.ยางซ้าย ต.ปากพระ ต.บ้านสวน            ต.บ้านหลุม  ต.ตาลเตี้ย  ต.วังทองแดง  ต.ปากแคว ต.บ้านกล้วย และเทศบาลตำบลบ้านสวน

 อำเภอกงไกรลาศ ยังคงมีน้ำท่วมใน 10 ตำบล ได้แก่ ต.ท่าฉนวน ต.บ้านกร่าง  ต.กง ต.ป่าแฝก           ต.หนองตูม ต.ไกรกลาง ต.กกแรต  ต.บ้านใหม่สุขเกษม  ต.ไกรนอก และ ต. ดงเดือย  

 อำเภอคีรีมาศ มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 ตำบล  ได้แก่  ต.บ้านป้อม ต.ทุ่งหลวง  ต.สามพวง ต.หนองกระดิ่ง และ ต.โตนด 

จังหวัดพิษณุโลก  น้ำท่วม  4 อำเภอ

 อำเภอบางระกำ  น้ำท่วมใน 10 ตำบล ได้แก่  ต.บางระกำ ต.ปลักแรด  ต.บึงกอก ต.หนองกุลา           ต.ชุมแสงสงคราม ต.นิคมพัฒนา ต.บ่อทอง  ต.ท่านางงาม  ต.คุยม่วง  และ ต.วังอิทก

 อำเภอพรหมพิราม  น้ำท่วมใน 3 ตำบล ได้แก่ ต.ท่าช้าง ต.หนองแขม ต.พรหมพิราม

 อำเภอวังทอง น้ำท่วมใน 9 ตำบล 102 หมู่บ้าน

 อำเภอบางกระทุ่ม น้ำท่วมใน 8 ตำบล 70 หมู่บ้าน

                 โครงการชลประทานพิษณุโลก ได้ส่งเครื่องสูบน้ำเข้าช่วยเหลือ จำนวน 26 เครื่อง แยกเป็น  ในเขต      อ.เมือง 17 เครื่อง  อ.บางระกำ 5 เครื่อง  อ.วัดโบสถ์ 2 เครื่อง  และ อ.บางกระทุ่ม 2 เครื่อง

จังหวัดพิจิตร  น้ำท่วม  6 อำเภอ

 อำเภอเมือง น้ำท่วมใน 11 ตำบล 1 เทศบาล  ได้แก่ ต.ในเมือง ต.ฆะมัง ต.บ้านปุง ต.ปากทาง            ต.ย่านยาว ต. สายคำโห้ ต.ป่ามะคาบ ต. หัวดง  ต.ท่าฬอ  ต.ดงป่าคำ ต.ดงกลาง และ เทศบาลตำบลท่าฬอ   

                  อำเภอสามง่าม น้ำท่วมใน 4 ตำบล ได้แก่ ต.รังนก ต.กำแพงดิน  ต.สามง่าม  และ ต.เนินปอ

                  อำเภอวชิรบารมี น้ำท่วมใน 4 ตำบล ได้แก่ ต.วังโมกข์ ต.หนองหลุม ต.บ้านนา  และ ต.บึงบัว   

                  อำเภอโพธิ์ประทับช้าง น้ำท่วมใน 7 ตำบล ได้แก่ ต.วังจิก  ต.ไผ่ท่าโพธิ์  ต.โพธิ์ประทับช้าง  ต.ไผ่รอบ   ต.ดงเสือเหลือง  ต.เนินสว่าง  และ ต.ทุ่งใหญ่

                 อำเภอโพทะเล น้ำท่วม ใน 8 ตำบล ได้แก่  ต.ทะนง ต.ท่าขมิ้น ต.ท่ายัง ต.ท่านั่ง  ต.ท่าเสา ต.ท้ายน้ำ    ต.บางคลาน และ ต.โพทะเล

                 อำเภอตะพานหิน น้ำท่วมใน 1 เทศบาล 10 ตำบล ได้แก่ เทศบาลเมืองตะพานหิน ต.งิ้วราย  ต.ห้วยเกตุ  ต.ทุ่งโพธิ์  ต.ดงตะขบ  ต.ไทรโรงโขน  ต.วังหลุม  ต.หนองพยอม  ต.คลองคูณ  ต.วังสำโรง  และ ต.ไผ่หลวง 

     โครงการชลประทานพิจิตร ได้ส่งเครื่องสูบน้ำเข้าช่วยเหลือ จำนวน 20 เครื่อง แยกเป็น  ในเขต   อ.เมือง 5 เครื่อง  อ.ตะพานหิน 4 เครื่อง  อ.บางมูลนาก 6 เครื่อง  และ  อ.โพทะเล 5 เครื่อง

จังหวัดนครสวรรค์ น้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ 2 กิ่งอำเภอ ระดับน้ำสูงเฉลี่ยประมาณ 0.50-080 ม. แนวโน้มทรงตัว

 อำเภอเมือง น้ำท่วมใน 11 ตำบล 1 เทศบาล ได้แก่ เทศบาลนครนครสวรรค์  ต.เกรียงไกร ต.พระหลวง ต.บึงเสนาท ต.แควใหญ่ ต.วัดไทรย์  ต.บ้านแก่ง ต.กลางแดด  ต.สวรรค์ออก ต.พระนอน  ต.บางม่วง และ              ต.บ้านมะเกลือ

 อำเภอชุมแสง น้ำท่วมพื้นที่ 11 ตำบล ได้แก่  ต.โคกหม้อ  ต.บางเคียน  ต.ท่าไม้  ต.ฆะมัง ต.พิกุล         ต.หนองกระเจา  ต.พันลาน  ต.เกยไชย ต.ทับกฤชใต้ ต.ทับกฤช  และ ต.ไผ่สิงห์

 อำเภอหนองบัว น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 ตำบล ได้แก่ ต.ห้วยร่วม และ ต.ห้วยถั่วเหนือ

 อำเภอเก้าเลี้ยว น้ำท่วมในพื้นที่ ต.หนองเต่า

 อำเภอโกรกพระ  มีน้ำท่วม ใน 4 ตำบล ได้แก่ ต.ยางตาล ต.โกรกพระ ต.บางมะฝ่อ และ ต.บางประมุง

 อำเภอพยุหะคีรี น้ำท่วมขัง 3 ตำบล ได้แก่ ต.ยางขาว  ต.พยุหะ และ ต.ย่านมัทรี 

 อำเภอบรรพตพิสัย น้ำท่วมขัง 2 ตำบล ได้แก่ ต.หนองตางู และ ต.หนองกรด

 อำเภอท่าตะโก  มีน้ำท่วมใน 10 ตำบล

 กิ่ง อ.ชุมตาบง  มีน้ำท่วมใน 2 ตำบล

 กิ่ง อ.แม่เปิน   มีน้ำท่วมใน 1 ตำบล

      โครงการชลประทานนครสวรรค์ ได้ส่งเครื่องสูบน้ำเข้าช่วยเหลือ จำนวน 11 เครื่อง แยกเป็น ในเขตเทศบาล 10 เครื่อง และพื้นที่นาข้าวถูกน้ำท่วม 1 เครื่อง    

จังหวัดเชียงราย   สภาพน้ำท่วมขังในพื้นที่ อ.แม่จัน และ อ.แม่สาย  เข้าสู่สภาวะปกติแล้วเมื่อวันที่ 31 ก.ย.49    โดยปริมาณน้ำแม่คำจาก อ.แม่จัน ได้ไหลมายังพื้นที่ อ.เชียงแสน  เอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ ต.ป่าสัก (หมู่ที่ 1,2,9,11) และ ต.ศรีดอนมูล (หมู่ที่ 3,9,10,13) 

จังหวัดตาก 

น้ำในแม่น้ำวัง และ แม่น้ำปิง   ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง  สภาพน้ำท่วมที่อยู่อาศัยเริ่มคลี่คลาย หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติในวันนี้  

จังหวัดอุทัยธานี  เกิดฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่

อำเภอเมือง น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำสะแกกรังเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ 5 ตำบล ได้แก่ ต.ท่าซุง (หมู่ที่ 1,2,4-7) ต.สะแกกรัง(หมู่ที่ 1,4,5,7,8)  ต.น้ำซึม (หมู่ที่ 1,2,3,4,7)   ต.เทโพ (หมู่ที่ 1,2,5,6) และ ต.เนินแจง (หมู่ที่ 8) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.20 -0.50 ม.  

อำเภอหนองขาหย่าง มีน้ำท่วมขัง ใน 2 ตำบล ได้แก่ ต.หนองไผ่ (หมู่ที่ 2 และ ต.หลุมเข้า (หมู่ที่ 1,2,3)  

จังหวัดชัยนาท  มีน้ำท่วมใน 2 อำเภอ ได้แก่

อำเภอหันคา  น้ำจาก อ.เนินขาม ไหลลงคลองสาขา เอ่อท่วมพื้นที่การเกษตร ในพื้นที่ 8 ตำบล ได้แก่      ต.หันคา ต.บ้านเซี่ยน ต.เด่นใหญ่ ต.ไพรนกยูง  ต.สามง่ามท่าโบสถ์ ต.หนองแซง ต.ห้วยงู  และ ต.วังไก่เถื่อน ระดับน้ำสูงประมาณ 0.20-0.30 ม.

อำเภอมโนรมย์  น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นท่วมพื้นที่การเกษตร 7 ตำบล ได้แก่ ต.คุ้งสำเภา (หมู่ที่ 1,2,4) ต.วัดโคก (หมู่ที่1-5) ต.ศิลาดาน (หมู่ที่ 1-4,6) ต.ท่าฉนวน (หมู่ที่ 1-6,10) ต.หางน้ำสาคร (หมู่ที่3,4)             ต.อู่ตะเภา (หมู่ที่ 3,4) และ ต.ไร่พัฒนา (หมู่ที่ 4) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.50-0.80 ม.

จังหวัดสิงห์บุรี  มีน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตรในเขต 3 อำเภอได้แก่

อ.อินทร์บุรี 6 ตำบล 1 เทศบาล   ได้แก่   เทศบาลอินทร์บุรี ต.อินทร์บุรี ต.ประศุก  ต.น้ำตาล (หมู่ที่ 7-8)     ต.ท่างาม (หมู่ที่ 7-11) ต.ชีน้ำร้าย (หมู่ที่ 1-8) และ ต.ทองเอน (หมู่ที่ 5-15) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.20-0.40 ม.   

อ.เมือง น้ำท่วมขังบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

อ.พรหมบุรี มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 ตำบล ได้แก่ ต.บางน้ำเชี่ยว และต.ปากบาง

จังหวัดอ่างทอง น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มที่อยู่ติดริมน้ำ ใน 4 อำเภอ  ได้แก่

อำเภอเมือง เกิดน้ำท่วมขังบ้านเรือน ต.จำปาหล่อ (หมู่ที่ 1-4) ระดับน้ำสูง 0.20-0.30 ม.

อำเภอป่าโมก  ในพื้นที่ 3 ตำบล ได้แก่ ต.โผงเผง (หมู่ที่ 1-8) ระดับน้ำสูง 0.90 – 1.50 ม.  ต.บางปลากด (หมู่ที่ 6 ) และ ต.บางเสด็จ (หมู่ที่ 2,3,5,6) ระดับน้ำสูง 0.50-0.70 ม.

อำเภอไชโย  ในพื้นที่ 1 เทศบาล 6 ตำบล ได้แก่ เทศบาลตำบลจระเข้ร้อง (หมู่ที่ 2,4,7)  ต.ชะไว   (หมู่ที่ 1-3) ต.ตรีณรงค์ (หมู่ที่ 1-3) ต.ชัยฤทธิ์ (หมู่ที่ 1) ต.หลักฟ้า (หมู่ที่ 1,2) ต.ไชยภูมิ (หมู่ที่ 6)  และ ต.เทวราช (หมู่ที่ 1-7) ระดับน้ำสูง 0.50-0.70  ม.

อำเภอแสวงหา ในพื้นที่ ต.บ้านพราน ระดับน้ำสูง 0.20-0.30 ม.

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยมีระดับสูงขึ้นเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรซึ่งเป็นที่ลุ่มริมฝั่งบางจุดใน 5 อำเภอ ได้แก่

     อำเภอพระนครศรีอยุธยา  น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาได้ไหลเข้าท่วมในพื้นที่ 2 ตำบล  ได้แก่ ต.ภูเขาทอง   ต.บ้านใหม่ ซึ่งอยู่นอกแนวป้องกันน้ำท่วม  ระดับน้ำสูง  0.70-1.00 ม. ระดับน้ำสูงขึ้น

  อำเภอบางบาล น้ำในแม่น้ำน้อยท่วมในพื้นที่ 16 ตำบล ได้แก่ ต.น้ำเต้า (หมู่ที่ 1-8)  ต.ทางช้าง (หมู่ที่ 1-6)  ต.วัดตะกู (หมู่ที่ 1-9) ต.กบเจ้า (หมู่ที่ 1-9) ต.บางหลวง (หมู่ที่ 1-5) ต.ไทรน้อย (หมู่ที่ 1-10) ต.บ้านกุ่ม (หมู่ที่ 1-9)  ต.บางบาล (หมู่ที่ 1-9) ต.วัดยม (หมู่ที่ 1-4) ต.สะพานไทย (หมู่ที่ 1-5) ต.พระขาว (หมู่ที่ 1-7) ต.บางหัก (หมู่ที่  1-8) ต.บางหลวงโด (หมู่ที่ 1-4)  ต.บางชะนี (หมู่ที่ 1-5) ต.บ้านคลัง (หมู่ที่ 1-7) และ ต.มหาพราหมณ์ (หมู่ที่ 1-10) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.70-1.10 ม.  ระดับน้ำสูงขึ้น

อำเภอบางไทร น้ำในแม่น้ำน้อยท่วมในพื้นที่ 2 ตำบล ได้แก่ ต.กระแชง (หมู่ที่1,2,3,5) และ ต.ช้างน้อย (หมู่ที่ 1-5) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.80-1.00 ม.

อำเภอผักไห่ น้ำในแม่น้ำน้อยท่วมในพื้นที่ 4 ตำบล ได้แก่ ต.ผักไห่ (หมู่ที่ 2,3,4,11,12) ต.ท่าดินแดง (หมู่ที่ 1-8) ต.บ้านใหญ่ (หมู่ที่  5-6) ต.บ้านกฏี (หมู่ที่ 12)  ระดับน้ำสูงประมาณ 1.00-1.40 ม.

อำเภอเสนา น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรใน 7 ตำบล 1 เทศบาล ได้แก่ เทศบาลเมืองเสนา ต.รางจระเข้ ต.บ้านกระทุ่ม ต.สามกอ  ต.หัวเวียง  ต.บ้านโพธิ์ ต.บ้านแพน และ ต.บ้านบางนมโค ระดับน้ำสูงประมาณ   0.40-0.50 ม.

จังหวัดปทุมธานี  น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่

อำเภอเมืองปทุมธานี มีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 ตำบล ได้แก่ ต.บ้านกระแชง (หมู่ที่ 3) และ ต.บ้านกลาง )ระดับน้ำสูงประมาณ 0.10-0.30 ม.

อำเภอสามโคก มีน้ำท่วมใน 1 เทศบาล 10 ตำบล ได้แก่  เทศบาลตำบลบางเตย  ต.สามโคก (หมู่ที่ 1)    ต.บางกระบือ (หมู่ที่ 2-3) ต.กระแชง (หมู่ที่ 1-3)  ต.คลองควาย (หมู่ที่ 1,4) ต.ท้ายเกาะ (หมู่ที่ 1-3) ต.เชียงรากใหญ่ (หมู่ที่ 1-7)  ต.เชียงรากน้อย (หมู่ที่ 1-4)  ต.บ้านงิ้ว (หมู่ที่ 1-3,5) ต.บางโพธิ์เหนือ และ ต.บ้านปทุม (หมู่ที่ 1-2)

จังหวัดฉะเชิงเทรา  น้ำในแม่น้ำบางประกงเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรใน อ.บางคล้า ในพื้นที่ 3 ตำบล ได้แก่ ต.หัวไทร  ต.ท่าทองหลวง และ ต.เสม็ดใต้  ระดับน้ำสูงประมาณ 0.10-0.30 ม.

จังหวัดขอนแก่น  น้ำในแม่น้ำชีเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฏรพี้นที่การเกษตร อ.แวงใหญ่  ใน    2 ตำบล ได้แก่  ต.โนนสะอาด และ ต.โนนทอง รวม 15 หมู่บ้าน ระดับน้ำสูงประมาณ 0.30-0.50 ม.

            จังหวัดนนทบุรี แม่น้ำเจ้าพระยา มีระดับสูงขึ้นไหลหลากเข้าท่วม ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด ระดับน้ำสูงประมาณ 0.30-0.50 ม.

            จังหวัดปราจีนบุรี เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี ที่ ต.วังตะเคียน (หมู่ที่ 1-3) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.30-0.50 ม.

6. การให้ความช่วยเหลือ           

กรมชลประทานได้จัดเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือเพื่อให้ความช่วยเหลือในฤดูฝน 2549 ดังนี้  เครื่องสูบน้ำ จำนวน 1,200 เครื่อง แยกเป็น สำหรับแก้ไขปัญหาน้ำท่วม จำนวน 657 เครื่อง สำหรับช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรในช่วงฤดูฝน จำนวน 543 เครื่อง  และ รถยนต์บรรทุกน้ำ จำนวน  295 คัน

โดยในส่วนของการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ได้จัดเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือไว้ช่วยเหลือ ดังนี้  เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ 657 เครื่อง รถนาค 28 คัน  เรือนาค 12 ลำ  เครื่องผลักดันน้ำ 110 เครื่อง  รถขุด 102 คัน  เรือขุด 9 ลำ    รถแทรกเตอร์ 28 คัน และ รถบรรทุก 70 คัน 

ปัจจุบันได้ส่งเครื่องสูบน้ำเข้าช่วยเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัยในฤดูฝน 2549  ทั่วประเทศแล้ว จำนวน 399 เครื่อง  ขณะนี้ได้ส่งเครื่องสูบน้ำเข้าช่วยที่จังหวัดพิจิตร 20 เครื่อง  จังหวัดพิษณุโลก 26 เครื่อง จังหวัดนครสวรรค์ 11 เครื่อง  ได้ส่งเครื่องผลักดันน้ำเพื่อช่วยผลักดันน้ำทะเลที่  จ.เพชรบุรีจำนวน 14 เครื่อง โดยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำไปแล้ว 119 เครื่อง 

            โครงการชลประทานสุพรรณบุรี ได้ประสานกับเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี นำเครื่องสูบน้ำ จำนวน 12  เครื่อง  ไปติดตั้งในเขตเทศบาลเมืองฯ    เพื่อเตรียมสูบน้ำจากท่อระบายน้ำในเขตเทศบาลเมืองฯลงสู่แม่น้ำทะจีน     ตั้งแต่วันที่      20 ก.ย. 49  เนื่องจากขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีน ที่ ปตร.โพธิ์พระยา มีระดับน้ำสูงเท่ากับระดับวิกฤต  ซึ่งจะมี ผลกระทบต่อชุมชนในเขตเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี ไม่สามารถระบายน้ำในเขตเทศบาลลงสู่แม่น้ำท่าจีนได้

 

_______________________________________