ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำกรมชลประทาน  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

โทรศัพท์  0-2243-6956, 0-2241-3350,0-2243-1098 โทรสาร 0-2243-6956, 0-2241-3350,0-2243-1098

http://www.rid.go.th/flood , www.kromchol.com, E-mail : rid_flood@yahoo.com  สายด่วน 1460

  _________________________________________________________

สรุปสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝน  ปี 2550

วันอังคารที่  2 ตุลาคม  2550

1.สภาพภูมิอากาศ     

                                                                                                                                                              
                                                                               


                                                                                                                                                               











All Tropical Cyclones

                                                                                                                               

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา http://www.hamweather.net/local/                                                         ที่มา http://www. jma.go.jp/en/typh/

10.00 น.วันนี้   พายุโซนร้อน “เลกีมา” ในทะเลจีนใต้ มีศูนย์กลางอยู่ทางด้านตะวันออกของประเทศเวียดนาม ห่างจากเมืองดานังประมาณ 350 กิโลเมตร หรือที่ ละติจูด 17.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้ กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยจะมีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณด้านรับลมมรสุมของภาคตะวันออกและภาคใต้ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ในระยะนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด สุราษฏร์ธานี ระนอง พังงา ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากภัยดังกล่าวไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังแรง ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่  2-4  ต.ค.นี้ไว้ด้วย  สำหรับพายุ “เลกีมา” นี้จะมีผลกระทบทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือทางตอนล่างและด้านตะวันออกบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานีมีฝนเพิ่มมากขึ้น ต่อจากนั้น ภาคเหนือด้านตะวันออกจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป

2.สภาพฝน 

ปริมาณฝนสูงสุดรายภาค ตั้งแต่ 07.00 น.วันที่ 1  ตุลาคม  2550 ถึง 07.00 น.วันที่  2  ตุลาคม  2550 ดังนี้

ภาคเหนือ                                               ที่ อ.เมือง  จ.พิษณุโลก                                            3.3       มม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ                    ที่ อ.เมือง จ.นครพนม                                              7.0       มม.

ภาคกลาง                                               ที่ อ.ทองผาภูมิ  จ.กาญจนบุรี                                 13.5      มม.

ภาคตะวันออก                                      ที่ อ.คลองใหญ่  จ. ตราด                                      408.0     มม.

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก                             ที่ อ.สะเดา จ.สงขลา                                               47.7      มม.

                                ภาคใต้ฝั่งตะวันตก                                ที่ อ.เมือง จ.ระนอง                                               49.0        มม.

3.สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ

สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ (2  ตุลาคม  2550) มีปริมาตรน้ำในอ่างฯทั้งหมด 53,441 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิดเป็นร้อยละ 78 ของความจุอ่างฯทั้งหมด น้อยกว่าปี 2549 ( 60,559  ล้านลูกบาศก์เมตร ) จำนวน 7,118  ล้านลูกบาศก์เมตร   คิดเป็นร้อยละ 10

อ่างเก็บน้ำภูมิพล และอ่างเก็บน้ำสิริกิติ์มีปริมาตรน้ำในอ่างฯทั้งหมด 9,751 และ 6,795 ล้านลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ หรือคิดเป็นร้อยละ 72 และ 71 ของความจุอ่างฯทั้งหมด ตามลำดับ โดยมีปริมาตรน้ำทั้งสองอ่างฯรวมกันจำนวน 16,546  ล้าน ลบ.ม.

 

                

 

 

 

 

อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ น้อยกว่า ร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ มีจำนวน 2 อ่าง ได้แก่

                                                                                                               

                                                                                                               

 

 

 

 

 

1) อ่างเก็บน้ำแม่กวง มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ                                     2)  อ่างเก็บน้ำลำนางรองมีปริมาตรน้ำในอ่าง ฯ  

     57 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 22 ของความจุอ่างฯ                         33  ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 27 ของความจุอ่างฯ

สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ มากกว่า ร้อยละ 80  ของความจุอ่างฯ มีจำนวน  10   อ่างฯ ได้แก่

 1) อ่างเก็บน้ำน้ำอูน  จังหวัดสกลนคร  มีปริมาตรน้ำในอ่าง   ฯ   426   ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ  82   ของความจุอ่า ง      

 2) อ่างเก็บน้ำลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์   มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 1,313  ล้านลบ.ม.  คิดเป็นร้อยละ  92   ของความจุอ่างฯ        

 3)  อ่างเก็บน้ำสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี  มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ  1,642  ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ  83  ของความจุอ่าง ฯ                                         

 4)   อ่างเก็บน้ำศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ  15,369  ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ  87 ของความจุอ่างฯ

 5)  อ่างเก็บน้ำวชิราลงกรณ์ จังหวัด กาญจนบุรี  มีปริมาตรน้ำในอ่าง ฯ  7,480   ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ  84  ของความจุอ่างฯ

 6)  อ่างเก็บน้ำขุนด่านปราการชล  จังหวัดนครนายก  มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ  197  ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ  88  ของความจุอ่างฯ             

 7) อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล  จังหวัดระยอง มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ  144  ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ  88  ของความจุอ่างฯ 

 8)  อ่างเก็บน้ำประแสร์  จังหวัดระยอง มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ  205  ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ  82   ของความจุอ่างฯ             

9) อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรีมีปริมาตรน้ำในอ่าง ฯ  600   ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ  84  ของความจุอ่าง ฯ

10)  อ่างเก็บน้ำรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 4,591  ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 81 ของความจุอ่างฯ

4. สภาพน้ำท่า

แม่น้ำปิง ที่สถานี P.1 สะพานนวรัฐ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีปริมาณน้ำไหล ผ่าน 56 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที   (ความจุ 440 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) อยู่ในเกณฑ์ปกติ  แนวโน้มเพิ่มขึ้น

 สถานี P.2A บ้านท่าแค อำเภอเมือง จังหวัดตาก มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 342 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ความจุ 1,830 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ลดลงจากเมื่อวาน 37.5 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น

สถานี  P.17  อำเภอบรรพตพิสัย  จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน  399   ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  ( ความจุ 1,344 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 28  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  อยู่ในเกณฑ์ปกติ  แนวโน้มเพิ่มขึ้น

แม่น้ำวัง  ที่สถานี  W.1C ที่สะพานเสตุวารี  อำเภอเมือง  จังหวัดลำปาง มีปริมาณน้ำไหลผ่าน  11 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  ลดลงจากเมื่อวาน 4  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  อยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง

 สถานี  W.4A บ้านวังหมัน อำเภอสามเงา จังหวัดตาก มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 112 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  (ความจุ 316 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ) ลดลงจากเมื่อวาน  4.2  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  อยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง

 แม่น้ำยม ที่สถานี Y.1C ที่สะพานบ้านน้ำโค้ง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 53 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ความจุ1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ลดลงจากเมื่อวาน  66  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  อยู่ในเกณฑ์ปกติ  แนวโน้มลดลง

สถานี Y.4 ที่ตลาดธานี อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 370.8 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ความจุ 520 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  ระดับตลิ่ง  6.48  ม.)  เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน  24  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  อยู่ในเกณฑ์น้ำมาก  ระดับต่ำกว่าตลิ่ง  1.68  ม.  แนวโน้มเพิ่มขึ้น

สถานี Y.16 บ้านบางระกำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 372.8  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ความจุ 342 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับตลิ่ง 7.15 ม. ) เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน  3.6  ลูกบาศก์เมตรต่อ  อยู่ในเกณฑ์น้ำท่วม  ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง  0.34  ม.  แนวโน้มเพิ่มขึ้น

สถานี Y.17 บ้านสามง่าม อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 246.4  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  (ความจุ 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที )   อยู่ในเกณฑ์ปกติ  แนวโน้มเพิ่มขึ้น

แม่น้ำน่าน โดยที่สถานี  N.1 หน้าสำนักงานป่าไม้  อำเภอเมือง  จังหวัดน่าน มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 149.0  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ความจุ 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที)     อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย  แนวโน้มลดลง

สถานี N.14A หน้าวัดหลวงพ่อแก้ว อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 776 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที    

(ความจุ 1,043 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับตลิ่ง  27.81  ม.) อยู่ในเกณฑ์น้ำมาก  ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง  1.01  ม.  แนวโน้มลดลง

แม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ (C.2 ) 1,349  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงจากเมื่อวาน  38 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (สูงสุดเมื่อวันที่24 ก.ย.50 จำนวน1,769 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา (C.13) 1,343  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงจากเมื่อวาน  34  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (สูงสุดเมื่อวันที่ 23 ก.ย.50 จำนวน 1,748ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที)โดยมีระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา  +15.80  ม.(รทก.)  ท้ายเขื่อนฯ   +  12 .30   ม.(รทก.) เขื่อนพระรามหก ปริมาณน้ำไหลผ่าน  81  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที   ทั้งนี้ ในพื้นที่ทุ่งฝั่งตะวันออกตอนล่างของลุ่มน้ำเจ้าพระยา กรมชลประทานได้สูบน้ำและระบายน้ำออกสู่ทะเล วันละ 14.5  ล้านลูกบาศก์เมตร

แม่น้ำป่าสัก สถานี S.4B สะพานพัฒนาภาคเหนือ 3 อ.เมือง  จ.เพชรบูรณ์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน  29.9  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  ( ความจุ 250  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  ระดับตลิ่ง  9.27  ม.)  ลดลงจากเมื่อวาน 14.2  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย แนวโน้มลดลง

สถานี S.42 บ้านบ่อวัง  อ.วิเชียรบุรี  จ.เพชรบูรณ์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน  330 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงจากเมื่อวาน 16 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ( ความจุ 220  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  ระดับตลิ่ง  10.20 ม.) น้ำท่วม ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง  0.87  เมตร แนวโน้มลดลง

แม่น้ำชี  สถานี E.23   อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ  ปริมาณน้ำไหลผ่าน  180  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ( ความจุ 270 ลบ.ม./วินาที  ระดับตลิ่ง  8.40  ม.) เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน  1.6  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อยู่ในเกณฑ์ปกติ  แนวโน้มลดลง ( เมื่อวาน 178.4   ลบ.ม./วินาที )

สถานี E.9   อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น  ปริมาณน้ำไหลผ่าน  240.4  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ( ความจุ 300 ลบ.ม./วินาที ระดับตลิ่ง  10.09  ม.) อยู่ในเกณฑ์น้ำมาก ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง  0.35  เมตร   แนวโน้มทรงตัว

สถานี E.18  บ้านท่าไคร้  กิ่งอำเภอทุ่งเขาหลวง  จังหวัดร้อยเอ็ด   ปริมาณน้ำไหลผ่าน  646.3  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  (   ความจุ 1,025  ลบ.ม./วิ ระดับตลิ่ง  9.46  ม.)  อยู่ในเกณฑ์น้ำมาก  ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.79  เมตร   แนวโน้มลดลง (เมื่อวาน 650.9  ลบ.ม./วินาที )

สถานี E.20A  อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ปริมาณน้ำไหลผ่าน  903.3  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที( ความจุ 1,025  ลบ.ม./วิ ระดับตลิ่ง  9.46  ม.)  อยู่ในเกณฑ์น้ำมาก  ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 0.07  เมตร   แนวโน้มลดลง(เมื่อวาน 911.7  ลบ.ม./วินาที )

แม่น้ำมูล สถานี M.8  บริเวณบ้านหนองแสง อำเภอลำปลายมาศ  จังหวัดบุรีรัมย์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน  79.6  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ( ความจุ 95 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  ระดับตลิ่ง  6.20  ม.  )  อยู่ในเกณฑ์มาก  ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง  0.48  ม.  แนวโน้มลดลง

แม่น้ำห้วยทับทัน  สถานี M.42 บ้านห้วยทับทัน อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีษะเกษ ปริมาณน้ำไหลผ่าน  107.9  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที   ( ความจุ 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  ระดับตลิ่ง  7.60  ม.)  อยู่ในเกณฑ์น้ำท่วม ระดับน้ำล้นตลิ่ง  1.56   เมตร  แนวโน้มลดลง

แม่น้ำห้วยสำราญ  สถานี M.9  บ้านหนองหญ้าปล้อง  อำเภอเมือง  จังหวัดศรีษะเกษ ปริมาณน้ำไหลผ่าน  118.5  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที   ( ความจุ 135 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  ระดับตลิ่ง  8.10  ม.)  อยู่ในเกณฑ์น้ำมาก  ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง  0.58   ม.  แนวโน้มลดลง

 

แม่น้ำห้วยขะยุง  สถานี M.176  บ้านโนนศรีไดล  อำเภอกันทรารมย์  จังหวัดศรีษะเกษ  ปริมาณน้ำไหลผ่าน  235.4  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  ( ความจุ 262 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  ระดับตลิ่ง  9.49  ม. )    อยู่ในเกณฑ์น้ำมาก   ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง  0.57  ม.  แนวโน้มลดลง

 แม่น้ำมูล  สถานี M.7 สะพานเสรีประชาธิปไตย  อำเภอเมือง  จังหวัดอุบลราชธานี ปริมาณน้ำไหลผ่าน   1,740 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ( ความจุ 1,980ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีระดับตลิ่ง  6.30  ม.)  อยู่ในเกณฑ์น้ำมาก  ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง  0.40  เมตร   แนวโน้มลดลง

แม่น้ำแม่กลอง สถานี K.3 หน้าวัดไชยชุมพล  อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี   (ระดับตลิ่ง  7.77 ม.)  อยู่ในเกณฑ์น้ำมาก ระดับน้ำ ต่ำกว่าตลิ่ง  0.34  เมตร แนวโน้มเพิ่มขึ้น

แม่น้ำคลองใหญ่ สถานี Z.10 บริเวณบ้านศรีบัวทอง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 215.8  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ความจุ 499 ลบ.ม./วินาที ) อยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง

แม่น้ำโกลก  สถานี X.119A บริเวณบ้านปาเสมัส อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส มีปริมาณน้ำไหลผ่าน  32.3 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ความจุ 384 ลบ.ม./วิ นาที) อยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มลดลง

แม่น้ำพระแสง  สถานี X.37 A บริเวณบ้านย่านดินแดง  อำเภอพระแสง  จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีปริมาณน้ำไหลผ่าน  229.8ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ความจุ 384 ลบ.ม./วินาที ) อยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น

 แม่น้ำอู่ตะเภา  สถานี X.44 บริเวณบ้านหาดใหญ่ใน อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีปริมาณน้ำนอนคลอง (ความจุ 509 ลบ.ม./วิ ) อยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มลดลง

แม่น้ำตะกั่วป่า  สถานี X.188 บริเวณบ้านรมณีย์  อำเภอกะปง  จังหวัดพังงา    (ระดับตลิ่ง  24.88  ม. ) อยู่ในเกณฑ์น้ำมาก  ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง  0.38  ม.  แนวโน้มเพิ่มขึ้น

แม่น้ำตะกั่วป่า  สถานี X.187 บริเวณบ้านหินดาน  อำเภอตะกั่วป่า  จังหวัดพังงา    (ระดับตลิ่ง  8.25  ม. )   น้ำท่วม  ระดับน้ำล้นตลิ่ง  0.05  ม.  แนวโน้มเพิ่มขึ้น

แม่น้ำตะกั่วป่า  สถานี X.186 บริเวณบ้านตลาดเก่า  อำเภอตะกั่วป่า  จังหวัดพังงา    (ระดับตลิ่ง  3.33 ม. )   น้ำท่วม  ระดับน้ำล้นตลิ่ง  0.02  ม.  แนวโน้มเพิ่มขึ้น

5. สถานการณ์น้ำท่วม

                จังหวัดพิจิตร  เนื่องจากปริมาณน้ำจากเทือกเขาเพรชบูรณ์ตั้งแต่วันที่  25  กันยายน 2550  ไหลเข้าท่วมพื้นที่ในเขต  ต.วังงิ้ว ต.สำนักขุนเณร ต.ห้วยพุก และ ต.วังงิ้วใต้ อ.ดงเจริญ แนวโน้มระดับน้ำลดลง และ ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำในเขต ต.วังตะกู ต.ภูมิ ต.ห้วยเขน ต.วังกรด อ.บางมูลนาก  โครงการชลประทานพิจิตรได้ทำการปิดบานระบายน้ำที่ ทรบ. บุษบงค์ใต้,ทรบ.หอไกร, และทรบ.คลองสินเธาว์  เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำจากแม่น้ำไหลเข้า  และ เกษตรกรมีความต้องการน้ำจากน้ำท่วมขังเก็บกักไว้เพื่อทำนาตั้งแต่เดือนตุลาคม จน ถึง ฤดูเก็บเกี่ยวในเดือน ธันวาคม 2550

จังหวัดสุโขทัย      ยังมีน้ำท่วมขังพื้นที่ราบลุ่ม ในเขต อ.เมือง บริเวณ ต.ยางซ้าย   ต.ปากพระ  ต.บ้านสวน  และในเขต อ.กงไกรลาศ บริเวณ  ต.ท่าฉนวน  ต.กง และ ต.ดงเดือย ซึ่งเป็นพื้นที่การเกษตรซึ่งเกษตรกรได้เก็บเกี่ยวผลผลิตหมดแล้ว  แนวโน้มคาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติภายในเดือนตุลาคม  2550

จังหวัดพิษณุโลก ยังมีน้ำท่วมต่อเนื่องจากวันที่  25  กันยายน  2550  ในพื้นที่ลุ่มต่ำ อ.บางระกำ  ต.ชุมแสงสงคราม  ต.  ท่านางงาม  อ.บางกระทุ่ม  ต.บ้านไร่, ต.บางกระทุ่ม,ต.สนามคลี,ต.ไผ่ล้อม  อ.วังทอง  ต.ชัยนาม,ต.วังทอง,ต.วังพิกุลทอง  แนวโน้มระดับน้ำลดลง  สามารถระบายลงสู่แม่น้ำน่าน  คาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติภายใน  1-2  สัปดาห์ 

                จังหวัดชัยนาท  เนื่องจากเกิดฝนตกสะสมตั้งแต่ในวันที่  25 กันยายน 2550  ทำให้น้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักรักษามหาราช  บริเวณ  ต.ชีน้ำร้าย  จ.สิงห์บุรี และ  ต.โบนางดำออก  อ. สรรพยา จ.ชัยนาท  ปริมาณน้ำจากคลองระบายชัยนาท-ป่าสัก 2  แนวโน้มลดลงสามารถระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มคาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 1-2  สัปดาห์

                จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  สภาพน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา  ระดับน้ำยังเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณ ปตร.บางกุ้ง ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล ระดับน้ำยังสูงกว่าตลิ่ง 0.22  ม.  พื้นที่ริมแม่น้ำน้อย บริเวณ ปตร.กุฎี อ.กุฎี อ.ผักไห่ ระดับน้ำยังสูงกว่าตลิ่ง 0.22  ม.คาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 2-3  สัปดาห์ และบริเวณ ต.น้ำเต้า อ.บางบาล ต.กระแซง อ.บางไทร ระดับน้ำยังสูงกว่าตลิ่ง 0.37  ม. และ ต.กระแซง อ.บางไทรระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.10 ม. คาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 1-2  สัปดาห์  พื้นที่ริม คลองบางหลวง ที่สถานี  C.36  บริเวณ ต.บางหลวงโดด อ.บางบาล ระดับน้ำยังสูงกว่าตลิ่งประมาณ 0.06  ม. แนวโน้มระดับน้ำลดลง  คาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 1-2  สัปดาห์

                จังหวัดตราด  เกิดฝนตกหนักถึงหนักมาก  ที่อำเภอคลองใหญ่  408  มม.  อำเภอเมือง  140  มม.  อำเภอเขาสมิง 300  มม. อำเภอบ่อไร่  70  มม.  ทำให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ต่างๆดังนี้.-

ในเขตอำเภอเขาสมิง  ท่วมบริเวณพื้นที่ บริเวณเหนือ และ ท้าย  ปตร.เขาสมิงแนวโน้มลดลง  ,ตำบลทุ่งนนทรี  หมู่ที่  1,2,9  น้ำท่วมสูง  0.30  ม.    ส่วนตำบลเขาสมิง  หมู่  3,6  น้ำท่วมสูง  0.50  ม.  สถานการณ์น้ำเข้าสู่สภาวะปกติแล้วเมื่อ บ่าย วันที่  2  ตุลาคม  2550 

                จังหวัดศรีสะเกษ  ระดับน้ำล้นตลิ่งในลำห้วยทับทัน  บริเวณ  อ.ห้วยทับทัน  ท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำไม่มีผลกระทบต่อราษฎร  และพื้นที่การเกษตร  บริเวณลำห้วยขะยุง   อ.  กันทรารมย์  แนวโน้มระดับน้ำลดลง  คาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 1-2  สัปดาห์

จังหวัดกาฬสินธุ์  มีน้ำท่วมขังบริเวณที่ลุ่มต่ำติดกับลำน้ำปาว ที่ อ.เมือง  บริเวณบ้านดอนฉนวน หมู่ที่ 9 บ้านห้วยโพธิ์ หมู่ที่ 4  บ้านคงเมือง หมู่ที่ 10  ที่ อ .กมลาไสย บ้านธนบุรี หมู่ที่ 5,13,1 บ้านโนนไฮ หมู่ที่ 9 บ้านสีถาน หมู่ที่10 ที่ อ.ยางตลาด บ้านปอแดง หมู่ที่ 1 บ้านขมิ้น หมู่ที่ 5 บ้านหลุบข้าว หมู่ที่ 7 บ้านดอนยานาง หมู่ที่ 7 บ้านเสียว หมู่ที่ 5 ที่ อ.ฆ้องชัย บ้านสว่างหมู่ที่ 9 มีพื้นที่การเกษตร ประมาณ  6,820 ไร่  เสียหายประมาณ 500 ไร่ ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากประจำทุกปี  และยังคงมีน้ำท่วมขังต่อไปอีกประมาณ 1 สัปดาห์

                .จังหวัดร้อยเอ็ด  เนื่องจากเกิดฝนตกหนักหลายพื้นที่  ทำให้มีน้ำท่วมพื้นที่การเกษตร 13 หมู่บ้าน 5 ตำบล 4 อำเภอ พื้นที่ประมาณ  4,186 ไร่  ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

                บ้านวังปากบุ่ง ต. พระธาตุ กิ่ง อ. เชียงขวัญ พื้นที่ประมาณ 500 ไร่ บ้านคุยจั่น บ้านคุยตับเต่า ต.สะอาด อ.โพธิ์ชัย พื้นที่ประมาณ 1,000 ไร่ บ้านคุยโพธิ์  ปากปลาค้าว  ต.ดอนโอง  อ.โ พธิ์ชัย  พื้นที่ประมาณ 1,000 ไร่  บ้านดอนแก้ว บ้านมะแว บ้านโนนราศี บ้านหนองไชยวาน และบ้านโดนยาง ต.บึงงาม กิ่ง อ.ทุ่งเขาหลวง รวมพื้นที่ 1,371 ไร่ บ้านขมิ้น และบ้านฮีโก่ม ต.เทอดไทย กิ่ง อ.ทุ่งกิ่งเขาหลวง พื้นที่ 315 ไร่  แนวโน้มสถานะการณ์น้ำลดลงอย่างต่อเนื่องสามารถระบายน้ำจากพื้นที่ลุ่มต่ำลงสู่แม่น้ำชีหากไม่มีฝนตกมาเพิ่ม  คาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติภายใน  1  สัปดาห์

                จังหวัดพังงา  เนื่องจากมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งคลองตะกั่วป่า ท่วมในเขตพื้นที่ลุ่มต่ำ  หมู่ที่  2  ต.ถ้ำน้ำผุด  อ.เมือง  แนวโน้มปริมาณน้ำทรงตัว  หากไม่มีฝนตกมาเพิ่ม  คาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติภายในช่วงเย็น วันที่  2  ตุลาคม  2550

6. การให้ความช่วยเหลือ

ปัจจุบัน กรมชลประทานได้ส่งเครื่องสูบน้ำประจำที่ท่าสูบน้ำเพื่อช่วยเหลืออุทกภัยทั้งประเทศจำนวน140 เครื่อง โดยแยกรายจังหวัดได้ดังนี้   เชียงใหม่ 45 เครื่อง  ลำพูน 10 เครื่อง เชียงราย 2 เครื่อง พิจิตร 3 เครื่อง   นครสวรรค์ 2 เครื่อง  มหาสารคาม 4 เครื่อง  กาฬสินธุ์ 2 เครื่อง  ชัยภูมิ 6  เครื่อง  นครราชสีมา 2 เครื่อง  นนทบุรี 10 เครื่อง  ปทุมธานี  4  เครื่อง  สุพรรณบุรี 20 เครื่อง  สมุทรสาคร 2  เครื่อง  นครปฐม  2  เครื่อง  ชัยนาท 19   เครื่อง   อ่างทอง 4  เครื่อง  นครศรีธรรมราช  3  เครื่อง   

************************************

นายสราญ              ตันติกุล                                                  นายช่างชลประทาน  6         ผู้ช่วยเลขานุการคณะทำงาน               รายงาน                                                      

นายพรชัย              พ้นชั่ว                                                     นายช่างชลประทาน 8          เลขานุการคณะทำงาน ศปส.ชป.         ตรวจ