+1 ศูนย์ประสานและติดตามสถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

โทรศัพท์ 0-2243-6956 โทรสาร 0-2243-6956, 0-2241-3350

Webpage : http://www.rid.go.th/flood , E-mail : flood44@mail.rid.go.th

_________________________________________________________

สรุปสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝนปี 2549

วันที่ 14 กันยายน 2549

1.สภาพภูมิอากาศ

ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบริเวณภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดชลบุรี ระยอง ปราจีนบุรี สระแก้ว เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง และพังงา ระมัดระวังภัยจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้

2. สภาพฝน

ปริมาณฝนวันที่ 13 ก.ย. 49 อยู่ในเกณฑ์ฝนตกหนัก (สูงกว่า 35 มม. ) วัดได้

จ.ชลบุรี พัทยา 42.0 มม.

จ.ระยอง อ.เมือง 42.4 มม..

อ.ห้วยโป่ง 52.0 มม.

จ.จันทบุรี อ.พลิ้ว 38.0 มม.

จ.ตราด อ.คลองใหญ่ 70.4 มม.

จ.ระนอง อ.ตะกั่วป่า 36.6 มม.

จ.ภูเก็ต ท่าอากาศยานภูเก็ต 43.6 มม.

จ.กระบี่ อ.เกาะลันตา 36.5 มม.

3. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ

สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ (14 ก.ย.49 ) มีปริมาตรน้ำในอ่างฯทั้งหมด 56,881 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 83 ของความจุอ่างฯทั้งหมด มากกว่าปี 2548 (46,487 ล้านลูกบาศก์เมตร ) จำนวน 10,394 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 15 ของความจุอ่างฯทั้งหมด

อ่างเก็บน้ำภูมิพล (14 ก.ย.49) มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 11,166 ล้าน ลบ.ม.(รับได้อีก 2,296 ล้าน ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 83 ของความจุอ่างฯทั้งหมด

อ่างเก็บน้ำสิริกิติ์ (14 ก.ย.49) มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 8,413 ล้าน ลบ.ม.(รับได้อีก 1,097 ล้านลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 88 ของความจุอ่างฯทั้งหมด

อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน (14 ก.ย.49) ปัจจุบันมีปริมาตรน้ำ 646.12 ล้าน ลบ.ม.(91.00%) มีการระบายน้ำ จำนวน 104.00 ลบ.ม./วินาที และ ระบายน้ำโดยวิธีกาลักน้ำได้ 3.30 ลบ.ม./วินาที (วางท่อ 10 แถว) สูบน้ำ 3.33 ลบ.ม./วินาที (เครื่องสูบน้ำ ขนาด 3 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง) รวมระบายน้ำทั้งหมด จำนวน 110.63 ลบ.ม./วินาที เพื่อให้มีน้ำเหลือในอ่างฯประมาณ 71 % ของความจุอ่าง ในช่วงต้นเดือนตุลาคม เพื่อรอรับน้ำหลากในช่วงฝนชุก

4. สภาพน้ำท่า

แม่น้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำที่ไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ 1,756 ลบ.ม./วินาที มีระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยา+15.15 ม.(รทก.) โดยมีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,585 ลบ.ม./วินาที ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหก 136 ลบ.ม./วินาที ทำให้ปริมาณน้ำที่ อ.บางไทร จ.อยุธยา อยู่ในเกณฑ์ 1,721 ลบ.ม./วินาที ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อกรุงเทพฯและปริมณฑล

ที่ จ.ชัยนาท ที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา(C13) อ.สรรพยา มีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 3.34 ม. สูงขึ้นจากวันก่อน 0.22 ม. แนวโน้มเพิ่มขึ้น

ที่ จ.สิงบุรี บ้านบางพุทรา (C3) อ.เมือง มีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 2.58 ม. (ข้อมูลวันที่ 13 ก.ย. 49) แนวโน้มเพิ่มขึ้น

ที่ จ. อ่างทอง บ้านบางแก้ว (C7A) อ.เมือง มีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.23 ม. สูงขึ้นจากวันก่อน 0.12 ม.. แนวโน้มเพิ่มขึ้น

ที่ จ.อยุธยา สะพานรถยนต์ (C35) อ.พระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.54 ม. สูงขึ้นจากวันก่อน 0.06 ม. แนวโน้มเพิ่มขึ้น

ที่ จ.ปทุมธานี (สถานีโทรมาตร C.55) มีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.59 ม. สูงขึ้นจากวันก่อน 0.06 ม. แนวโน้มเพิ่มขึ้น

ที่ จ.นนทบุรี อ.ปากเกร็ด (สถานีโทรมาตร C.22A ) มีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.08 ม. สูงขึ้นจากวันก่อน 0.44 ม. แนวโน้มเพิ่มขึ้น

แม่น้ำโขง สภาพน้ำท่าในลำน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ ที่สถานี บ้านท่าควาย (Kh.16B) อ.เมือง จ.นครพนม ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 5.36 ม. ลดลงจากวันก่อน 0.07 ม. แนวโน้มลดลง

แม่น้ำชี สภาพน้ำท่าในลำน้ำส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์น้อย ที่สถานี บ้านค่าย (E.23) อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 0.03 ม. เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 0.07 ม. แนวโน้มเพิ่มขึ้น

แม่น้ำมูล สภาพน้ำท่าในลำน้ำส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์น้อย ที่สะพานเสรีประชาธิปไตย (M.7) อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 2.14 ม. ลดลงจากวันก่อน 0.29 ม. แนวโน้มลดลง

แม่น้ำเพชรบุรี สภาพน้ำท่าที่สถานี บ้านสองพี่น้อง (B.3A) บริเวณท้ายเขื่อนแก่งกระจาน มีระดับน้ำ 2.66 ม. ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 1.74ม. ที่เขื่อนเพชร ปัจจุบันมีการระบาย 91.50 ลบ.ม./วินาที

จากปริมาณฝนที่ตกหนักถึงหนักมากในระยะนี้ ส่งผลให้แม่น้ำหลายสายมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์มาก และล้นตลิ่ง ดังนี้

แม่น้ำลี้ (ลำน้ำสาขาของแม่น้ำปิง) ที่สถานี P.76 บ้านอีไฮด์ อ.ลี้ จ.ลำพูน ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.17 ม. สูงขึ้นจากวันก่อน 0.17 ม. แนวโน้มเพิ่มขึ้น

แม่น้ำยม สภาพน้ำท่าในลำน้ำตอนบนส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ปกติ ยกเวันบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำ ตั้งแต่ อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย (ระดับน้ำเริ่มลดลง) อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก และ บางพื้นที่ใน จ.พิจิตร และนครสวรรค์ ที่ยังมีน้ำท่วมขัง

- ที่สถานี Y16 บ้านบางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 3.58 ม. สูงขึ้นจากวันก่อน 0.07 ม. แนวโน้มเพิ่มขึ้น

- ที่สถานี Y17 บ้านสามง่าม อ.สามง่าม จ.พิจิตร ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง0.39 ม. สูงขึ้นจากวันก่อน 0.04 ม. แนวโน้มเพิ่มขึ้น

แม่น้ำน่าน ที่หน้าวัดหลวงพ่อแก้ว ( N14A) อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.32 ม. เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 0.10 ม. แนวโน้มลดลง

แม่น้ำป่าสัก บ้านบ่อวัง (S.42) อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.36 ม. ลดลงจากวันก่อน 0.02 ม. แนวโน้มลดลงเล็กน้อย

แม่น้ำแควน้อย ที่ อ..ไทรโยค จ.กาญจนบุรี (สถานี K.10) ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.81 ม. สูงขึ้นจากวันก่อน 0.09 ม. มีน้ำท่วมที่ราบลุ่มเป็นบางส่วนบริเวณรีสอร์ทต่าง ๆ สถานการณ์ไม่รุนแรง แนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้น

5. สถานการณ์น้ำท่วม

จังหวัดนครสวรรค์ น้ำจากแม่น้ำยม และแม่น้ำน่าน ได้ไหลเอ่อเข้าท่วมขังในพื้นที่ลุ่มริมน้ำ 5 อำเภอ ได้แก่

1. อ.เมือง ยังคงมีน้ำท่วมขังใน 8 ตำบล ได้แก่ ต.เกรียงไกร ต.บางพระหลวง ต.บึงเสนาท ต.แควใหญ่ ต.วัดไทรย์ ต.บ้านแก่ง ต.กลางแดด และ ต.สวรรค์ออก ระดับน้ำสูงประมาณ 0.10-0.20 ม.ระดับน้ำทรงตัว

2. อ.บรรพตพิสัย น้ำในคลองเคียนเอ่อล้นเข้าท่วม ต.หนองกรด (หมู่ที่ 1,7,10,13,15) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.20-0.30 ม. ระดับน้ำทรงตัว

3. อ.ชุมแสง มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 10 ตำบล ได้แก่ ต.โคกหม้อ ต.บางเคียน ต.ท่าไม้ ต.ฆะมัง ต.พิกุล ต.หนองกระเจา ต.พันลาน ต.เกยไชย ต.ทับกฤชใต้ และ ต.ทับกฤช ระดับน้ำสูงประมาณ 0.30-0.40 ม.ระดับน้ำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

4. อ.หนองบัว มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 ตำบล ได้แก่ ต.ห้วยร่วม และ ต.ห้วยถั่วเหนือ ระดับน้ำสูงประมาณ 0.20-0.40 ม.ระดับน้ำทรงตัว

5. อ.เก้าเลี้ยว มีน้ำท่วมในพื้นที่ ต.หนองเต่า (หมู่ที่ 1,2,7-10) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.20-0.40 ม.ระดับน้ำทรงตัว

จังหวัดสุโขทัย ยังคงมีน้ำท่วมขังใน 2 อำเภอ ได้แก่

1. อ.เมือง ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตร 3 ตำบล ได้แก่ ต.ยางซ้าย (หมู่ที่ 2,9,11,12) ตำบลปากพระ (หมู่ที่ 1-6) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.20 ม. และตำบลบ้านกล้วย (หมู่ที่ 1,2,5,12,13,14 ) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.30 ม. ระดับน้ำทรงตัว

2. อ.กงไกรลาศ ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตร 11 ตำบล ได้แก่ ต.ท่าฉนวน (หมู่ที่ 1,3-12) ต.บ้านกร่าง (หมู่ที่ 3-5) ต.กง (หมู่ที่ 1,2,5,6,12) ต.ป่าแฝก (หมู่ที่ 2, 3-9) ต.หนองตูม (หมู่ที่ 2-6) ต.ไกรกลาง (หมูที่ 1-5,7,8 ) ต.ไกรใน (หมู่ที่ 3-5 ,7,11,14,15 ) ต.กกแรด (หมู่ที่ 1-10, 12 ) ต.บ้านใหม่สุขเกษม (หมู่ที่ 1-8 ) ต.ไกรนอก (หมู่ที่ 1-3 , 7-8 ) ต. ดงเดือย (หมู่ที่ 1,6-10) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.50 –0.80 ม. ระดับน้ำทรงตัว

จังหวัดพิษณุโลก ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่จำนวน 3 อำเภอ ได้แก่

1. อ.บางระกำ น้ำในแม่น้ำยมจาก อ.กงไกรลาศ ไหลเข้าท่วมขังในพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชน 5 ตำบล ได้แก่ ต.ชุมแสงสงคราม (หมู่ที่ 1-9) ต.คุยม่วง (หมู่ที่ 6,8,9) ต.ท่านางงาม (หมู่ที่ 1,2,3) และ ต.นิคมพัฒนา และ ต.บางระกำ (หมู่ที่ 7,15) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.30-0.50 ม. ระดับน้ำทรงตัว

2. อ.พรหมพิราม ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตร 4 ตำบล ได้แก่ ต.ท่าช้าง (หมู่ที่ 2, 5, 7, 9) ต. หนองแขม (หมู่ที่ 2,4,8,10) ต.พรหมพิราม (หมู่ที่ 5,11,12) ต.วังวน (หมู่ที่ 1,2,4,8,10) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.20-0.40 ม.

3. อ.เมือง บริเวณด้านหลังมหาวิทยาลัยนเรศวร ระดับน้ำสูงประมาณ 0.60 ม. โครงการชลประทานจังหวัดพิษณุโลก ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 5 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ คาดว่า หากไม่มีฝนตก จะเข้าสู่สภาวะปกติใน 2-3 วัน

จังหวัดพิจิตร น้ำจากแม่น้ำยมและแม่น้ำน่านไหลเอ่อเข้าท่วมขังในพื้นที่ลุ่มริมน้ำ 3 อำเภอ ได้แก่

1. อ.เมือง น้ำท่วมในพื้นที่ 8 ตำบล ได้แก่ ต.ในเมือง ต. ฆะมัง (หมู่ที่ 3, 9) ต. บ้านปุง (หมู่ที่ 2, 3, 5, 6) ต.ปากทาง (หมู่ที่ 3 ,6, 7 ) ต.ย่านยาว (หมู่ที่ 2, 6 ) ต. สายคำโห้ (หมู่ที่ 1-5) ต.ป่ามะคาบ (หมู่ที่ 1, 2, 7, 13) และ ต. หัวดง (หมู่ที่ 6, 9) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.10-0.20 ม. ระดับน้ำทรงตัว

2. อ.สามง่าม น้ำท่วมในพื้นที่ 1 ตำบล ได้แก่ ต.รังนก (หมู่ที่ 1,2,9) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.30-0.50 ม.

3. อ.วชิรบารมี มีน้ำท่วม 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลวังโมกข์ (หมู่ที่ 1, 3, 7, 9 ) ตำบลหนองหลุม (หมู่ที่ 2,, 10 ) และตำบลบ้านนา (หมู่ที่ 1 ,13) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.20-0.30 ม. ระดับน้ำทรงตัว

จังหวัดกำแพงเพชร ได้เกิดฝนตกหนักวันที่ 12-13 กันยายน 2549 ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง 1 อำเภอ 1 กิ่ง อำเภอ ได้แก่

1.อ.พรานกระต่าย เกิดน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ 5 ตำบล ได้แก่ ต.วังตะแบก (หมู่ที่1,10) ต.คลองพิไกร (หมู่ที่ 3) ต.เขาคีริส (หมู่ที่ 5,18) ต.ห้วยยั้ง (หมู่ที่ 5) และ ต.ถ้ำกระต่ายทอง (หมู่ที่ 5,7) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.10-0.20 ม.

2.กิ่ง อ.โกสัมภีนคร เกิดน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ 3 ตำบล ได้แก่ ต.โภสัมภี (หมู่ที่ 1-25) ต.เพชรชมพู (หมู่ที่ 1-9) และ ต.ลานดอกไม้ (หมู่ที่ 1-9) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.20-0.30 ม. ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

จังหวัดตาก ได้เกิดฝนตกหนักวันที่ 12-13 กันยายน 2549 ทำให้เกิดเข้าท่วม อ.บ้านตาก 6 ตำบล ได้แก่ ต.ท้องฟ้า ต.กระเชาะ(หมู่ที่ 1 ,3,10) ต.ตากออก(หมู่ที่ 9,10,11,12) ต.ตากตก (หมู่ที่ 9 ,10,11) ต.เกาะตะเภา(หมู่ที่ 1, 10) และ ต.แม่สลิด (หมู่ที่ 4 ,5,11) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.20-0.30 ม.

จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่ถูกน้ำท่วม 5 อำเภอ ดังนี้

1. อ.แม่วาง มีน้ำท่วม 3 ตำบล ต.บ้านกาด (หมู่ที่ 1-9 ) ต.ทุ่งปี้ (หมู่ที่ 1-7, 9-12,) และต.ทุ่งรวงทอง (หมู่ที่ 2,3) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.20-0.30 ม.

2. อ.ฮอด มีน้ำท่วม ต.หางดง (หมู่ที่ 1,2,5,12 ) ต.ฮอด (หมู่ที่ 1) และ ต.บ้านตาล (หมู่ที่ 6) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.20-0.30 ม.

3. กิ่ง อ.ดอยหล่อ มีน้ำท่วม 3 ตำบล ต.สันติสุข (หมู่ที่2,4,9) ต.ยางคราม (หมู่ที่ 3, 5-7, 9) และ ต.สองแคว (หมู่ที่ 1,4,5,8) ระดับน้ำท่วมประมาณ 0.20-0.30 ม.

4.อ.จอมทอง ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตร บริเวณ ต.บ้านหลวง ต.ดอยแก้ว และ ต.สบเตี๊ยะ ระดับน้ำสูงประมาณ 0.20-0.30 ม.

5.อ.แม่แจ่ม มีน้ำท่วมขังพื้นที่ 6 ตำบล ได้แก่ ต.กองแขก (หมู่ที่ 1) ต.ช่างเติ่ง (หมู่ที่ 6,8) ต.หินฝน (หมู่ที่ 12) ต.บ้านทับ (หมู่ที่ 1,10) ต.แม่ศึก (หมู่ที่ 7) และ ต.ท่าผา (หมู่ที่ 6,8)ระดับน้ำสูง ประมาณ 0.10-0.20 ม.

จังหวัดชัยภูมิ เนื่องจากฝนตกหนัก ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำชี สูงขึ้นเอ่อล้นเข้าท่วมพี้นที่การเกษตรในอำเภอต่างๆดังนี้

1. อ.เมือง น้ำชี้เอ่ล้นเข้าท่วมพี้นที่การเกษตร บริเวณบ้านกุดละลม (ท้ายฝานกุดละลม) ต.หนองนาแซง ท่วมพื้นที่การเกษตร 500 ไร่ และบริเวณบ้านวังก้านเหลือง ต.บ้านค่าย ประมาณ 200ไร่

2. อ.บ้านเขว้า น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร บริเวณบ้านหางเรียง ต.ลุ่มน้ำชี ท่วมพื้นที่การเกษตร 300 ไร่ บ้านวังกุ่ม(บึงโลโพ) บ้านโนนน้อย บ้านแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง บ้านท่าแก บ้านท่าแกทอง ประมาณ 1800 ไร่

3. หนองบัวระเหว น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพี้นที่เกษตร บริเวณบ้านหนองบัวระเหว บ้านละหานค่าย บ้านโจด บ้านทามจาน ต.หนองบัวระเหว รวมประมาณ 700 ไร่

คาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะเข้าสู่สภาวะปกติใน 4-5 วัน

จังหวัดเพชรบูรณ์ ยังคงมีน้ำท่วมขัง 2 อำเภอ ได้แก่

1. อ.เมืองเพชรบูรณ์ มีน้ำท่วมขังเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ชุมชน (หมู่ที่ 8,9,15) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.10-0.20 ม. ระดับน้ำทรงตัว

2. อ.หล่มสัก มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 ตำบล ได้แก่ ต.วัดป่า (หมู่ที่ 5-8,10) ต.ช้างตะลูด (หมู่ที่ 3) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.10-0.20 ม.ระดับน้ำทรงตัว

6. การให้ความช่วยเหลือ

กรมชลประทานได้จัดเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือเพื่อให้ความช่วยเหลือในฤดูฝน 2549 ดังนี้ เครื่องสูบน้ำ จำนวน 1,200 เครื่อง แยกเป็น สำหรับแก้ไขปัญหาน้ำท่วม จำนวน 657 เครื่อง สำหรับช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรในช่วงฤดูฝน จำนวน 543 เครื่อง และ รถยนต์บรรทุกน้ำ จำนวน 295 คัน

โดยในส่วนของการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ได้จัดเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือไว้ช่วยเหลือ ดังนี้ เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ 657 เครื่อง รถนาค 28 คัน เรือนาค 12 ลำ เครื่องผลักดันน้ำ 110 เครื่อง รถขุด 102 คัน เรือขุด 9 ลำ

รถแทรกเตอร์ 28 คัน และ รถบรรทุก 70 คัน

ปัจจุบันได้ส่งเครื่องสูบน้ำเข้าช่วยเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัยทั่วประเทศรวม 223 เครื่อง ได้ส่งเครื่องผลักดันน้ำเพื่อช่วยผลักดันน้ำทะเลที่ จ.เพชรบุรีจำนวน 14 เครื่อง

_______________________________________