ศูนย์ประสานและติดตามสถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โทรศัพท์ 0-2243-6956 โทรสาร 0-2243-6956, 0-2241-3350
Webpage : http://www.rid.go.th/flood , E-mail : flood44@mail.rid.go.th
_________________________________________________________
สรุปสถานการณ์น้ำในปัจจุบัน
วันที่ 21 สิงหาคม 2548
1. สภาพภูมิอากาศและสภาพฝน
ร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องฝนพาดผ่านตอนบนสุดของภาคเหนือ ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนเกือบทั่วไป ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย
และอ่าวไทย ทำให้ภาคกลาง ภาคตะวันออก
และภาคใต้มีฝนกระจาย อนึ่ง มีฝนตกหนักต่อเนื่องในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ระดับน้ำในลุ่มน้ำโขงสูงขึ้นและล้นตลิ่งบริเวณจังหวัดนครพนม และมุกดาหารต่อไปอีก
ขอให้ประชาชนที่อยู่ใกล้ลำน้ำโขงบริเวณจังหวัดนครพนม และมุกดาหารระวังภัยจากน้ำล้นตลิ่งไว้ด้วย
สรุปปริมาณฝนสะสมเฉลี่ยในภาคต่างๆตั้งแต่วันที่1
มกราคม18 สิงหาคม 2548 มีรายละเอียดดังนี้
2. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ
ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2548 มีปริมาตรน้ำในอ่างทั้งหมด จำนวน 41,676 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 61 ของความจุอ่างฯทั้งหมด
น้อยกว่าปี 2547(46,343 ล้านลูกบาศก์เมตร) ร้อยละ 10 ในช่วงเวลาเดียวกัน
สภาพน้ำของอ่างเก็บน้ำในภาคเหนือ
ในช่วงวันที่12-18 สิงหาคม 2548
ปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำเพิ่มมากขึ้น
เนื่องจากในช่วงดังกล่าวมีพายุดีเปรสชั่นเข้าประเทศเวียดนาม ทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล
305 ล้าน ลบ.ม. ,เขื่อนสิริกิติ์ 516 ล้านลบ.ม., เขื่อนแม่งัด 75 ล้าน ลบ.ม., เขื่อนแม่กวง 30
ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนกิ่วลม 54 ล้าน ลบ.ม.
รวมเป็นปริมาณน้ำไหลลงอ่างทั้งหมด 980 ล้าน ลบ.ม.
สำหรับอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาตรน้ำในอ่างฯอยู่ในเกณฑ์น้อย
โดยมีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ดังนี้ อ่างเก็บน้ำเขื่อนลำตะคอง
33 ล้าน ลบ.ม.(10%), เขื่อนลำพระเพลิง 15 ล้านลบ.ม.(14%), เขื่อนกระเสียว 29 ล้าน ลบ.ม.(12%), เขื่อนทับเสลา 21 ล้าน ลบ.ม.(13%) , เขื่อนบางพระ
14 ล้าน ลบ.ม. (13%), เขื่อนหนองปลาไหล 11 ล้าน ลบ.ม. (7%), เขื่อนดอกกราย 5.8 ล้าน ลบ.ม. (8%) และเขื่อนบางวาด 0.45 ล้าน ลบ.ม. (6.1%)
อ่างเก็บน้ำเขื่อนลำตะคอง
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนลำตะคอง
ได้ประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนเกษตรกร และผู้ที่เกี่ยวข้อง รับทราบสถานการณ์เป็นระยะๆ
และได้ประสานกับทางจังหวัด
ประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องหารือแนวทางเตรียมความพร้อมป้องกันแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำล่วงหน้า ประสานสำนักฝนหลวงและการบินเกษตรเร่งปฏิบัติการฝนหลวงเติมน้ำในอ่าง
ชลอการเพาะปลูกข้าวนาปีจนกว่าจะมีฝนตกมากเพียงพอ
ปัจจุบันทำการเพาะปลูกข้าวนาปีไปแล้ว 60,000 ไร่
อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง
สนับสนุนการใช้น้ำเพื่อการอุปโภค ประปาปักธงชัย ประปาโชคชัย เทศบาลตำบลตะขบ
ใช้น้ำรวมทั้งหมด 400,000 ลบ.ม./เดือน และได้มีการทำนาปีไปแล้ว
27,000 ไร่ โดยอาศัยน้ำฝน
อ่างเก็บน้ำเขื่อนทับเสลา
ส่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคหมู่บ้านเพชรน้ำผึ้งเดือนละ 480,000 ลบ.ม.
ไม่ได้ส่งน้ำเพื่อการเพาะปลูก แต่เกษตรกรทำการเพาะปลูกข้าวนาปี ประมาณ 79,800
ไร่ โดยอาศัยน้ำบาดาลใต้ดิน
อ่างเก็บน้ำเขื่อนกระเสียว ส่งน้ำโดยวิธีกาลักน้ำ 0.02 ล้าน ลบ.ม.
ช่วยเหลือการอุปโภคบริโภค ใน อ.สามชุก อ.หนองหญ้าไซ อ.ด่านช้าง และประปา
อ.ด่านช้าง
อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล และดอกกราย ปัจจุบัน (21 ส.ค.48) มีปริมาตรน้ำในอ่างฯทั้งสองรวมกัน จำนวน
15.56 ล้านลูกบาศก์เมตร มีปริมาณการใช้น้ำวันละ 0.47 ล้านลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯทั้งสองรวมกันวันละ 0.11 ล้านลบ.ม.
อ่างเก็บน้ำบางวาด
ส่งน้ำให้การประปาเทศบาลนครภูเก็ต 12,000 ลบ.ม./วัน
และประปาภูมิภาค 10,000 ลบ.ม./วัน
อ่างฯบางวาดสามารถสนับสนุนการใช้น้ำได้ถึงประมาณ 25 สิงหาคม 2548
หลังจากนั้น การประปาภูมิภาค จะใช้น้ำขุมสรรพสามิต(คลองบางใหญ่) ขุมสนามกอล์ฟล็อคปาล์ม จะสามารถใช้น้ำได้ตลอดไป
เนื่องขุมที่กล่าวจะมีน้ำไหลอยู่ตลอดเวลา ส่วนประปานครภูเก็ต
จะใช้น้ำจากขุมเหมืองต่าง จำนวน 7 แห่ง มีปริมาณน้ำใช้ได้รวม 1.0 ล้าน
สามารถใช้ได้ไม่น้อยกว่า 30 วัน
3. สภาพน้ำท่า
จากสภาพฝนที่ตกหนักมากในวันที่ 12 ส.ค.48
ในพื้นที่ต้นน้ำของลุ่มน้ำหลายสายในภาคเหนือ
อันเนื่องมากจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นในช่วงที่ผ่านมา (11-13 ส.ค. 48)
ส่งผลให้สภาพน้ำท่าในลุ่มน้ำภาคเหนือมีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้นและเอ่อล้นเข้าท่วมในหลายพื้นที่
ปัจจุบันระดับน้ำลดลงและเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว
ส่วนในลุ่มน้ำอื่นๆส่วนใหญ่ยังคงมีสภาพน้ำท่าในลำน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยถึงปกติ
ลุ่มน้ำปิง ที่สะพานนวรัฐ(P.1) อ.เมือง
จ.เชียงใหม่ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 127 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.65
เมตร แนวโน้มระดับน้ำลดลง
ลุ่มน้ำวัง ที่สะพานเสตุวารี(W.1C) อ.เมือง จ.ลำปาง
สถานีท้ายเขื่อนกิ่วลม ระดับน้ำในแม่น้ำวังอยู่ในเกณฑ์น้อย มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 75 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีแนวโน้มลดลง
ลุ่มน้ำยม ที่ อ.เมือง จ.สุโขทัย (Y.4)มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 137 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 2.62 เมตร แนวโน้มระดับน้ำลดลง และที่ บ้านบางระกำ (Y.16) อ.บางระกำ จ.สุโขทัย มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 144 ลบ.ม./วินาที
ระดับน้ำสูงขึ้นจากวันก่อน 0.29 เมตร
ต่ำกว่าตลิ่ง 2.06 เมตร
แนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้น
ลุ่มน้ำน่าน ที่หน้าสำงานป่าไม้
(N.1) อ.เมือง
จ.น่าน มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 401 ลบ.ม./วินาที
ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 3.27 เมตร
แนวโน้มระดับน้ำลดลง
4. สถานการณ์น้ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
วันที่ 21 สิงหาคม 2548
จากอิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องฝนพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ส่งผลบริเวณประเทศไทยในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนาแน่นในในช่วง16
18 สิงหาคม 2548 ทำให้เกิดสภาพน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ
ดังนี้
จ.ยโสธร จากสภาพฝนที่ตกหนาแน่นในวันที่ 17 ส.ค.48
ทำให้เกิดน้ำท่วมขังเพียงเล็กน้อยในพื้นที่ราบลุ่มและพื้นที่การเกษตรบางแห่งในเขต อ.ป่าติ้ว
และ อ.เมือง
ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว
จ.กาฬสินธุ์ จากสภาพฝนที่ตกต่อเนื่องกระจายช่วงวันที่
16 -18 ส.ค.48 ในพื้นที่เทือกเขา
ภูพานในบริเวณ อ.สมเด็จ อ.ห้วยผึ้ง
กิ่ง อ.นาคู อ.เขาวง อ.กุฉินารายณ์
ทำให้มีปริมาณในลำน้ำสาขาต่างๆเพิ่มขึ้น
และไหลลงอ่างเก็บน้ำขนาดกลางหลายแห่ง รองรับปริมาณน้ำดังกล่าวไว้
สะสมมาจนเต็มความจุอ่างฯ ได้แก่ อ่างฯห้วยสังเคียบ
อ่างห้วยสะทด อ่างฯห้วยฝา อ่างห้วยผึ้ง อ่างห้วยมะโน อ่างลำพะยัง และอ่างห้วยจุมจัง
ปริมาณน้ำเต็มความจุอ่างฯ
โดยมีน้ำไหลออกทางระบายน้ำล้นลงสู่ลำน้ำเดิมด้านท้าย
ทำให้มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นไหลบ่าผ่านที่ลุ่มในช่วงคืนวันที่ 18 ส.ค.48
แผ่เป็นบริเวณกว้างตลอดลำน้ำ
ไปรวมตัวท่วมขังในบริเวณที่ลำน้ำบรรจบกันเป็นที่ 2 จุด คือ
บริเวณบ้านหนองอีบุตร อ.ห้วยผึ้ง ประมาณ 1,800 ไร่ และบริเวณบ้านไค้นุ่น ต.ไค้นุ่น
อ.ห้วยผึ้ง ประมาณ 1,200 ไร่ คาดว่าการท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ
จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติใน 3.- 5 วัน
จ.หนองคาย สถานการณ์น้ำลำน้ำโขงเมื่อวันที่ 21
ส.ค.48 เวลา 12.00 น. ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 0.94 เมตร และเมื่อเวลา 15.00 น. ระดับน้ำโขงทรงตัว ซึ่งมีพื้นที่ลุ่มต่ำเกิดน้ำท่วมเป็นพื้นที่การเกษตรประมาณ
12,704 ไร่ ได้แก่ อ.ปากคาด 3,888
ไร่ อ.โซ่พิสัย 6,493 ไร่ อ.บึงโขงหลง 207 ไร่ และ อ.บุ่งคล้า 2,116 ไร่ และได้เกิดน้ำกัดเซาะตลิ่งได้รับความเสีย บริเวร บ้านปากสวย และบ้านทุ่งธาตุ อ.โพนพิสัย
จ.สกลนคร
จากสภาพฝนที่ตกต่อเนื่องมาโดยตลอด
ทำให้สภาพน้ำในลำน้ำธรรมชาติมีระดับน้ำสูงขึ้นเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตลุ่มน้ำสงคราม ลุ่มน้ำยาม ลุ่มน้ำก่ำ และลุ่มน้ำอูน แนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้น
โดยมีพื้นที่น้ำท่วมนอกเขตชลประทาน
ใน 13 อำเภอ 59 ตำบล 299
หมู่บ้าน รวม 68,487 ไร่ แยกเป็นพื้นที่เพาะปลูก 67,988 ไร่ และบ่อปลา 499 ไร่ โดยเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก 26,656 ไร่
ซึ่งไม่มีพื้นที่เพาะปลูก สำหรับสภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ
ส่วนใหญ่มีปริมาตรน้ำเต็มความจุอ่างฯ
เฉลี่ยประมาณ 99.82 %ของความจุอ่างฯ
แนวโน้มระดับน้ำในลำน้ำธรรมชาติเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
จ.
นครพนม จากอิทธิพลของน้ำโขงมีระดับน้ำหนุนสูง
ทำให้ปริมาณน้ำในลำน้ำสงคราม
ลำน้ำห้วยบังกอ ลำน้ำก่ำ
ไม่สามารถไหลลงแม่น้ำโขงได้ทัน เกิดน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร
โดยมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบประมาณ 50,000 ไร่
ในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.ธาตุพนม
อ.นาแก อ.ปลาปาก กิ่ง อ.วังยาง อ.ศรีสงคราม และ อ. ท่าอุเทน สำหรับในเขตเทศบาลเมืองนครพนม
ปัจจุบันน้ำระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีระดับสูงกว่าระดับท่อระบายน้ำของเทศบาล โครงการชลประทานนครพนมร่วมกับทางจังหวัด
เทศบาลเมืองนครพนม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแผนเตรียมรับสถานการณ์แล้ว
โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 4 เครื่อง
และได้ดำเนินการสูบน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง ทำให้ในเขตเทศบาลไม่ได้รับผลกระทบจากสภาะวะน้ำท่วมแต่อย่างใด
จ.อำนาจเจริญ จากอิทธิพลของน้ำโขงมีระดับน้ำหนุนสูง
(ยังไม่ล้นตลิ่ง) ทำให้น้ำจากลำห้วยสาขา ไม่สามารถไหลลงแม่น้ำโขง บริเวณ อ.ซานุมาน
ได้ ทำให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกรรม สองฝั่งริมลำห้วยสาขาต่างๆ ได้แก่
ห้วยทม ห้วยยาง ห้วนนาทัน และ ห้วยแก้วเม็ง รวมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบประมาณ 410 ไร่ แนวโน้มระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีระดับน้ำสูงขึ้น
โครงการชลประทานอำนาจเจริญได้เตรียมเครื่องสูบน้ำ จำนวน 9 เครื่อง
ไว้เตรียมเข้าช่วยด้วยแล้ว
และขณะนี้ได้ส่งเครื่องสูบน้ำเข้าช่วยเหลือในพื้นที่แล้ว 1
เครื่อง
จ.
มุกดาหาร จากสภาพฝนที่ตกต่อเนื่อง ในวันที่ 16 -18 ส.ค.48
ทำให้สภาพน้ำลำน้ำต่าง มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเอ่อล้นตลิ่ง
ประกอบกับระดับน้ำลำน้ำโขงมีระดับสูงมาก
ทำให้เกิดการเอ่อท่วมบริเวณจุดที่ลำห้วยไหลลงไปบรรจบแม่น้ำโขง
พื้นที่น้ำท่วมประมาณ 5,900 ไร่
ดังนี้
- ลำห้วยมุก
เกิดน้ำท่วมบริเวณบ้านคำผึ้ง ต.หนองแวง อ.เมือง ประมาณ 1,800 ไร่
- ลำห้วยบังอี่ ท่วมบริเวณ นาที่ลุ่ม บ้านนาโพธิ์
ต.โพธิ์ไทร อ.ดอนตาล และนาข้าว บริเวณ บ้านนากอก ต.หนองแวง อ.นิคมคำสร้อย ประมาณ
2,100 ไร่
- ลำห้วยบางทราย
ท่วมบริเวณปากลำน้ำบรรจบแม่น้ำโขง บ้านบางทรายน้อย
ต.บางทรายน้อย อ.หว้านใหญ่ ประมาณ 1,200 ไร่
-
ลำห้วยชะโนด ท่วมบริเวณปากลำห้วยบรรจบแม่น้ำโขง
บ้านชะโนด ต.ชะโนด อ.หว้านใหญ่ ประมาณ 800 ไร่
สำหรับระดับในแม่น้ำโขงบริเวณ
จ.มุกดาหาร มีระดับสูงขึ้น สูงกว่าตลิ่งประมาณ 0.39 ม.(วันที่ 21 ส.ค. 48 เวลา
18.00 น.) ทำให้น้ำท่วมบ้านเรือน 45 ครัวเรือน
ในชุมชนศรีมงคลเหนือและชุมชนศรีพัฒนา
กรมป้องกันฯและเทศบาลเมือง
ได้น้ำกระสอบทรายเข้ากั้นในจุดต่ำในเขตเทศบาลแล้ว ในส่วนของโครงการชลประทานมุกดาหารได้เตรียมเครื่องสูบน้ำขนาด
12 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง และขนาด 8 นิ้ว จำนวน 7เครื่อง
ไว้เตรียมเข้าช่วยด้วยแล้ว
และขณะนี้ได้ส่งเครื่องสูบน้ำเข้าช่วยเหลือในพื้นที่น้ำท่วมแล้ว 2 เครื่อง
จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำในลำน้ำโขงยังคงต่ำกว่าตลิ่ง
แนวโน้มสูงขึ้น และเริ่มมีผลกระทบบ้างเล็กน้อยในพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่ง ในเขต อ.เขมราช
--------------------------------------------
ศูนย์ประสานและติดตามสถานการณ์ กรมชลประทาน
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
21 สิงหาคม 2548