แผนการเฝ้าระวังอุทกภัยของกรมชลประทาน ปี 2545/2546
----------------------------
1. การบริหารและจัดการน้ำ
กรมชลประทานเป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีบทบาทในการดำเนินการป้องกันเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ทั้งในส่วนของพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ชุมชน โดยพื้นที่ รับผิดชอบหลักจะอยู่ในเขตชลประทานต่างๆ ทั่วภูมิภาค
โดยอาศัยระบบชลประทานที่มีอยู่ ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำ คลองส่งน้ำ คลองระบายน้ำ
แนวคันกั้นน้ำ สถานีสูบน้ำ และอาคาร ชลประทานต่างๆ
ตลอดจนอาศัยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ระบบฐานข้อมูลและระบบสารสนเทศ
ระบบการรับส่งข้อมูลทางไกล หรือระบบโทรมาตร (Telemetering System) ระบบพยากรณ์และเฝ้าระวังภัย โดยอาศัยแบบจำลองทางคณิตศาสตร์
เพื่อการติดตามสถานการณ์และการคาดการณ์เป็นเครื่องมือสำหรับการบริหารในลุ่มน้ำนั้นๆ นอกจากนั้นยังได้ประสานแผนปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ
ที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนกลางและท้องถิ่น
เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำช่วงฤดูฝนตกหนักมีประสิทธิภาพ
กรมชลประทานได้ดำเนินการเพื่อเตรียมความพร้อม ดังนี้
1.1 การจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม กรมชลประทานได้ให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว
จึงได้จัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจฯ ขึ้นในช่วงฤดูฝนของทุกปี โดยมีภารกิจในการ ติดตามสถานการณ์ต่างๆ
อย่างใกล้ชิดและมีการรายงานสถานการณ์-สั่งการโดยเร็ว
เพื่อการป้องกัน แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและทันต่อเหตุการณ์ พร้อมการแจ้งสถานการณ์
ตลอดจนข่าวสารผ่านสื่อ
ต่างๆ
รายงานให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบเป็นระยะๆ
1.2 แผนงานพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำและในพื้นที่ลุ่ม
เพื่อรองรับปริมาณน้ำไหลหลากลงอ่างเก็บน้ำ และปริมาณฝนที่ตกลงในพื้นที่ลุ่ม
ทั้งนี้โดยก่อให้เกิดผลกระทบต่อการใช้น้ำเมื่อปริมาณฝนลดน้อยลงหรือสิ้นสุดฤดูฝนน้อยที่สุด
ตลอดจนตรวจสอบความพร้อมของอาคารชลประทานต่างๆ เช่น คันกั้นน้ำ ประตูระบายน้ำ
และสถานีสูบน้ำ เพื่อควบคุมระดับน้ำในที่ลุ่มให้เหมาะสม
1.3 แผนงานติดตามสภาพภูมิอากาศ
สภาพฝนและสภาพน้ำท่าโดยใกล้ชิด เพื่อการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝนตกหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากทั้ง 3 ข้อที่กล่าวมาแล้ว กรมชลประทานยังมีแผนงานขุดลอกคลองและแหล่งน้ำ
งานกำจัดวัชพืชในคลองชลประทานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรับน้ำและการระบายน้ำ
ตลอดจนเตรียมความพร้อมของเครื่องจักรเครื่องมือในท้องถิ่นและส่วนกลาง เช่น เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่
เครื่องผลักดันน้ำ รถบรรทุก เป็นต้น พร้อมให้ความช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร
และพื้นที่ชุมชนได้ทันต่อเหตุการณ์
2. โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่ดำเนินการแล้วเสร็จ
2.1 พื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทานจะเป็นพื้นที่นอกเขตคันกั้นน้ำทั้งฝั่งตะวันออก
(คันกั้นน้ำตามพระราชดำริ) และฝั่งตะวันตกบริเวณจังหวัดปทุมธานีลงมาจรดทะเล
จะต้องมีการควบคุมระดับน้ำในพื้นที่ให้เหมาะสม
ตลอดจนเป็นแหล่งเก็บกักน้ำก่อนที่จะระบายออกสู่ทะเล ประกอบด้วย
2.1.1
โครงการตามแนวพระราชดำริ
1) โครงการแก้มลิงฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา
ทำหน้าที่รับน้ำในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยอาศัยแม่น้ำท่าจีน
และคลองมหาชัย-สนามชัยเป็นแหล่งรองรับน้ำและลำเลียงน้ำเพื่อระบายออกสู่ทะเลด้านจังหวัดสมุทรสาคร
ตามจังหวะขึ้น-ลงของน้ำทะเล
ประกอบด้วยอาคารชลประทานและสถานีสูบน้ำรวมจำนวน 48 แห่ง
มีศักยภาพการระบายน้ำประมาณวันละ 34.5 ล้านลูกบาศก์เมตร
2) โครงการแก้มลิงฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา
ทำหน้าที่รับน้ำในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยอาศัยแม่น้ำบางปะกง
และคลองชายทะเลเป็นแหล่งรองรับน้ำและลำเลียงน้ำเพื่อระบายออกสู่ทะเลด้านจังหวัดสมุทรปราการ
ตามจังหวะขึ้น-ลงของน้ำทะเล ประกอบด้วยอาคารชลประทานและสถานีสูบน้ำรวมจำนวน 16 แห่ง มีศักยภาพการระบายน้ำประมาณวันละ 41.5
ล้านลูกบาศก์เมตร
3) โครงการระบายน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดนนทบุรี และจังหวัดปทุมธานี
ผ่านอาคารประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่งรวมจำนวน22 แห่ง มีศักยภาพการระบายน้ำประมาณวันละ 23.6
ล้านลูกบาศก์เมตร
2.1.2
โครงการคลอง 14 เพื่อลดปริมาณน้ำหลากในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง
โดยเฉพาะบริเวณกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยการระบายน้ำท่วมเหนือเขื่อนเจ้าพระยา
จังหวัดชัยนาท ออกทางด้านฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านระบบระบายน้ำเดิม
ประกอบด้วย คลองชัยนาท-ป่าสัก คลองระพีพัฒน์ คลอง 13 คลอง 14 คลองรังสิตประยูรศักดิ์ คลองหกวาสายล่าง
คลองแสนแสบ คลองนครเนื่องเขต ระบายออกสู่ทะเลทางแม่น้ำบางปะกง และคลองพระองค์ไชยา- นุชิต
ระบายน้ำออกสู่ทะเลทางสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร สามารถระบายน้ำได้ประมาณวันละ
4.0 ล้านลูกบาศก์เมตร
2.1.3
โครงการสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร 2 และสถานีสูบน้ำบางปลาชั่วคราว
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลด้านตะวันออก
โดยใช้ระบบคลองที่มีอยู่แล้วให้ไหลลงสู่ทะเลโดยเร็วที่สุด
ประกอบด้วยการก่อสร้างสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร 2 ขนาด 3
ลูกบาศก์เมตร/วินาที จำนวน 20 เครื่อง สูบน้ำลงทะเลโดยตรง และสถานีสูบน้ำบางปลาชั่วคราว ขนาด 3 ลูกบาศก์เมตร/วินาที จำนวน 20 เครื่อง
สูบน้ำทอยจากคลองสำโรงลงสู่แก้มลิงคลองชายทะเลเพื่อเร่งระบายน้ำออกทะเลต่อไป
จะสามารถเร่งระบายน้ำได้เพิ่มขึ้นถึงประมาณวันละ 10.4 ล้านลูกบาศก์เมตร
จะแล้วเสร็จในปี 2546
2.1.4
โครงการคลองลัดโพธิ์
เป็นโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาการระบายน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา
โดยการขุดลอกคลองลัดโพธิ์ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
เพื่อย่นระยะทางการเดินทางของน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา
และเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของน้ำลงสู่ทะเล จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงที่ไหลผ่านกรุงเทพมหานครลดระดับน้ำสูงสุดได้ระหว่าง
5 - 7 ซ.ม. ขณะนี้อยู่ระหว่างการประกวดราคาหาผู้รับจ้าง
คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2547
2.2 โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตพื้นที่อื่น
ๆ
2.2.1 โครงการเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
เป็นโครงการประเภทอ่างเก็บน้ำ เพื่อเก็บกักน้ำไว้เพื่อการชลประทาน
และบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่บริเวณท้ายเขื่อนด้วย
นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องมือ Hardwareและ Software
ของระบบโทรมาตรร่วมกับแบบจำลองเพื่อการพยากรณ์น้ำไหลลงอ่างฯ
และระบบควบคุมการเปิด-ปิดบานระบายน้ำ
เพื่อการจัดการน้ำในอ่างฯให้สอดคล้องกับสภาวะอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นทางด้านท้ายน้ำตั้งแต่จังหวัดลพบุรี
สระบุรี พระนครศรีอยุธยา และกรุงเทพมหานคร
2.2.2
โครงการลุ่มน้ำท่าตะเภา(ท่าแซะ-รับร่อ) จังหวัดชุมพร เป็นโครงการบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำท่าตะเภา เพื่อบรรเทาอุทกภัยชุมชนเมืองชุมพร
ปัจจุบันได้ก่อสร้างปรับปรุงระบบระบายน้ำ
และงานก่อสร้างคลองผันน้ำเสร็จแล้วบางส่วน ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการติดตั้งระบบโทรมาตรเพื่อพยากรณ์น้ำและเฝ้าระวังภัย กำหนดแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2545
2.2.3
โครงการบรรเทาอุทกภัยจังหวัดจันทบุรี
ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันน้ำท่วมและระบายน้ำอย่างเป็นระบบ
รวมทั้งการเตือนภัยในเขตจังหวัดจันทบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง
คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2546 สำหรับการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน
ได้มีการขุดลอกคลองธรรมชาติในเขตอำเภอเมืองจำนวน 5 สาย
ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ซึ่งแล้วเสร็จเป็นบางส่วน
3. โครงการปรับปรุงระบบเฝ้าระวังที่อยู่ระหว่างดำเนินการ
3.1
โครงการหาความสัมพันธ์ของระดับน้ำและปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณกรุงเทพ มหานครและปริมณฑล (Hydrodynamic
Flow Measurement) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของน้ำทะเลหนุนและปริมาณน้ำเหนือหลากผ่านกรุงเทพมหานคร
เป็นความร่วมมือของหลายหน่วยงาน ได้แก่ กรมชลประทาน กปร. กรุงเทพมหานคร
กรมโยธาธิการ. เป็นต้น ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ
จะแล้วเสร็จในปี 2546
3.2 โครงการศึกษาวางระบบและติดตั้งระบบโทรมาตรเพื่อพยากรณ์น้ำ
และเฝ้าระวังภัย ลุ่มน้ำ อู่ตะเภา อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจัดหาผู้รับจ้าง
3.3 โครงการศึกษาวางระบบและติดตั้งระบบโทรมาตรเพื่อพยากรณ์น้ำ
และเฝ้าระวังภัย ลุ่มน้ำจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี
ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำเอกสารประกวดราคา
3.4 โครงการศึกษาวางระบบและติดตั้งระบบโทรมาตรเพื่อพยากรณ์น้ำ
และเฝ้าระวังภัย ลุ่มน้ำท่าจีนตอนล่าง
ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจัดหาผู้รับจ้าง
3.5
โครงการศึกษาวางระบบและติดตั้งระบบโทรมาตร
ประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ จังหวัดนครศรีธรรมราช
ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการออกแบบวางระบบและติดตั้งระบบโทรมาตรเพิ่มเติมจากที่ได้ดำเนินการไว้แล้ว
3.6
โครงการฟื้นฟูและบรรเทาอุทกภัยอำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ และน้ำก้อ-น้ำชุน
จังหวัดเพชรบูรณ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อหามาตราการบรรเทาอุทกภัย
3.7
โครงการศึกษาวางระบบติดตั้งโทรมาตรเพื่อพยากรณ์น้ำและเฝ้าระวังภัยที่จะดำเนินการเพิ่มเติมในปี
2546 มี 2 โครงการ คือ
ระบบโทรมาตรลุ่มน้ำปิงตอนบน จังหวัดเชียงใหม่ และลุ่มน้ำ บางนรา
จังหวัดนราธิวาส
---------------------------------
ศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ปี 2545
กรมชลประทาน โทรศัพท์
0-2243-6956
Web page: http:// 203.150.73.19/flood
Email: flood44@mail.rid.go.th
13 มิถุนายน 2545