ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์กลุ่มงานจัดสรรน้ำ  /
   
การศึกษาเกณฑ์การควบคุมระดับน้ำในเขื่อนปราณบุรี
Reservoir Rule Curve Study of Pran Buri Dam

 

บทคัดย่อ

 

        การศึกษาเกณฑ์การควบคุมระดับน้ำในเขื่อนปราณบุรี อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับเก็บกักน้ำให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม มีความสอดคล้องกับปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ และความต้องการใช้น้ำทั้งในเกณฑ์น้ำมาก เกณฑ์น้ำน้อย โดยกิจกรรมด้านการเกษตรซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ของโครงการฯ โดยไม่ให้เกิดการขาดแคลนน้ำหรือมีการเก็บกักน้ำในอ่างฯมากจนเกิดความเสี่ยงต่อการระบายน้ำไปท่วมพื้นที่ด้านท้ายน้ำของอ่างฯ เมื่อมีสภาวะน้ำหลากเกิดขึ้น

        วิธีการศึกษาแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน ประกอบด้วย ขั้นตอนแรกเป็ฯการศึกษาถึงความต้องการใช้น้ำจากอ่างฯเพื่อกิจกรรมต่างๆ เช่น ปริมาณการใช้น้ำเพื่อการเกษตร ปริมาณการใช้น้ำต่ำสุดด้านท้ายน้ำ ฯลฯ (Minimum Constrain) โดยอาศัยข้อมูลจากสถิติการจัดการน้ำในอ่างฯ แผนการปลูกพืชของโครงการฯ และน้ำฝนจากสถานีตรวจวัดน้ำฝนที่คัดเลือก ขั้นตอนที่ 2 เป็นขั้นตอนในการนำค่าปริมาณน้ำที่ได้จากการวิเคราะห์จากขั้นตอนแรก และปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ รายเดือนที่ได้มีการจัดเก็บสถิติ 18 ปี มาวิเคราะห์สมดุลย์ของน้ำในอ่างฯ (Water Balance Study) โดยอาศัยโปรแกรม HEC-3 ในการศึกษาจะกำหนดระดับกักเก็บน้ำในอ่างฯเป็น 4 ระดับ ประกอบด้วย 1. Bottom of Conservation 2. Top of Buffer 3. Top of Conservation 4. Top of Flood control โดยอาศัยโค้งระดับน้ำ - พื้นที่ผิวน้ำ - ปริมาณเก็บกักของอ่างฯ ในการศึกษาจะมีการวิเคราะห์กรณีศึกษาต่างๆ ที่ได้ตั้งสมมุติฐานไว้ และมีการปรับระดับน้ำในอ่างฯเพื่อให้ได้ีระดับที่เหมาะสม

        ผลการศึกษาปรับระดับกักเก็บในอ่างเก็บน้ำเขื่อนปราณบุรี พบว่าการกำหนดเกณฑ์การเก็บกักสูงสุด (Upper Rule Curve) ในฤดูแล้งควรกำหนดไว้เกณฑ์ค่อนข้างสูง แต่ไม่ควรจะตั้งไว้สูงมากจนเกินไป เพราะถ้ามีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯมาก จะมีการระบายออกท้ายอ่างฯจนทำให้เกิดสภาวะต่อพื้นที่ท้ายอ่างเก็บน้ำได้ การเก็บกักในฤดูฝน ควรจะกำหนดไว้ระดับค่อนข้างต่ำ เพื่อที่ระรองรับน้ำฝน และน้ำท่าที่จะไหลเข้าอ่างเก็บน้ำ แต่ไม่ควรกำหนดให้ต่ำจนเกินไป เพราะจะทำให้มีปริมาณน้ำไม่เพียงพอในการรองรับความต้องการในช่วงฤดูแล้ง ส่วนการกำหนดเกณฑ์กำหนดน้ำต่าสุด (Lower Rule Curve) ใช้หลักในการปรับระดับให้มีความเหมาะสมโดยการกำหนดระดับให้สอดคล้องตามเกณฑ์การเก็บกักน้ำสูงสุด ให้มีการใช้น้ำได้มากในช่วงฤดูฝน และเก็บกักให้สูงในต้นฤดูแล้ง และในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ยอมให้มีการใช้น้ำได้มากที่สุด แต่จะต้องเหลือไว้อุปโภคบริโภคไว้ประมาณวันละ 2 มบ.ม/วินาที จึงยอมให้น้ำในอ่างฯได้ต่ำสุด 100 ล้าน ลบ.ม. สำหรับในฤดูแล้งจากการคำนวณหาความต้องการน้ำมีค่าประมาณ 100 ล้าน ลบ.ม. เมื่อรวมกับความต้องการน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภค จึงกำหนดไว้ที่ 200 ล้าน ลบ.ม. เมื่อสิ้นฤดูฝนจากนั้นจะรักษาระดับน้ำมนอ่างฯไปจนถึงเดือนมิถุนายน ที่ระดับต่ำสุดคือ 100 ล้าน ลบ.ม. จากการศึกษาได้กำหนดระดับเก็บกักน้ำสูงสุด (Upper Rule Curve) และระดับน้ำต่ำสุด (Lower Rule Curve) เป็นรายเดือนไว้ดังนี้

หน่วย : ล้าน ลบ.ม.
เกณฑ์เก็บกักน้ำ ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
สูงสุด 390 355 345 320 290 278 260 290 320 390 440 440
ต่ำสุด 180 160 110 110 100 100 125 165 200 200 200 200

 

กราฟเกณฑ์การควบคุมระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนปราณบุรี

   
Web RID


นายสมจิต อำนาจศาล


กรมชลประทาน
สำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา
ส่วนบริหารจัดการน้ำ


ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2553