ข่าวสถานการณ์น้ำชลประทาน

     ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำกรมชลประทาน   กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

                          โทร.สายด่วน 1460 / E- mail : wmsc.1460@gmail.com / http://water.rid.go.th/wmsc

-----------------------------------------------------------------------------

น้ำในเขื่อนยังน้อย วอนลุ่มน้ำเจ้าพระยา งดเพิ่มพื้นที่ทำนาปรัง  สำรองน้ำไว้ใช้เพาะปลูกต้นฤดูฝนปีนี้

                ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ ล่าสุด(13 ม.ค. 58) มีปริมาณน้ำรวมกัน จำนวน  44,307 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 63 ของความจุอ่างฯขนาดใหญ่รวมกันทั้งหมด มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกันทั้งสิ้นประมาณ 20,804 ล้านลูกบาศก์เมตร

                   ทั้งนี้ ประเทศไทย มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 33 แห่ง มีอ่างเก็บน้ำที่บริหารจัดการน้ำเป็นระบบลุ่มน้ำ 2 ลุ่มน้ำ คือลุ่มน้ำเจ้าพระยา และลุ่มน้ำแม่กลอง ที่ใช้น้ำจากเขื่อน  6 แห่ง ส่วนที่เหลืออีก 27 แห่ง จะบริหารจัดการน้ำในลักษณะเชิงเดี่ยว  สำหรับในฤดูแล้งปี 2557/2558  มีอ่างฯเชิงเดี่ยวที่มีปริมาณน้ำน้อยไม่สามารถจัดสรรน้ำเพื่อการเพาะปลูกได้รวม 10 แห่ง ได้แก่ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา จ.เชียงใหม่ , เขื่อนกระเสียว จ.สุพรรณบุรี ,เขื่อนทับเสลา จ.อุทัยธานี,เขื่อนห้วยหลวง จ.อุดรธานี ,เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ,เขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ และเขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนลำตะคอง เขื่อนมูลบน เขื่อนลำแซะ จ.นครราชสีมา ซึ่งบริหารจัดการน้ำโดยคณะกรรมการจัดการน้ำชลประทาน(JMC)ของแต่ละโครงการฯ ที่มีเกษตรกรร่วมเป็นคณะกรรมการ ร่วมกันวางแผนจัดสรรน้ำให้เพียงพอสำหรับการอุโภค-บริโภค และรักษาระบบนิเวศน์ตลอดช่วงฤดูแล้ง ซึ่งปัญหาการขาดแคลนน้ำจะไม่เกิดขึ้น หากเกษตรกรงดทำนาปรังตามมติของคณะกรรมการ JMC

                   ส่วนในลุ่มน้ำเจ้าพระยา และลุ่มน้ำแม่กลอง ที่มีปริมาณน้ำต้นทุนน้อยเช่นกัน นั้น กรมชลประทานได้วางแผนการจัดสรรน้ำ โดยงดส่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปรัง คงเหลือการวางแผนจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค และรักษาระบบนิเวศน์ให้เพียงพอตลอดฤดูแล้งเท่านั้น ในขณะที่ปัจจุบันนี้ มีเพียงลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่เกษตรกรยังคงทำนาปีต่อเนื่องและนาปรัง รวมกันไปแล้วกว่า 3.50 ล้านไร่ ส่งผลให้ต้องเพิ่มปริมาณน้ำจากแผนเดิมที่ได้วางไว้ สำหรับการอุปโภค – บริโภค และการผลักดันน้ำเค็ม จึงขอให้เกษตกรร่วมมือกันงดเพิ่มพื้นที่ทำนาปรังด้วย

                   อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการน้ำในลุ่มเจ้าพระยาจนถึงสิ้นฤดูแล้งปีนี้ คาดว่าจะมีปริมาณน้ำใช้การได้เมื่อสิ้นฤดูแล้งประมาณ 3,800 - 4,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเพียงพอที่สนับสนุนการเพาะปลูกพืชฤดูฝนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่จะเริ่มทำการเพาะปลูกได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2558 เป็นต้นไป

                   สำหรับพื้นที่นอกเขตชลประทาน เนื่องจากไม่มีแหล่งน้ำต้นทุน เกษตรกรจะทราบเป็นอย่างดี และไม่ทำการเพาะปลูกอยู่แล้ว ส่วนในพื้นที่ที่ไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ และมีปัญหาเรื่องน้ำอุปโภค-บริโภค กรมชลประทาน ได้เตรียมพร้อมที่จะสนับสนุนเครื่องสูบน้ำและรถบรรทุกน้ำได้อย่างทันท่วงที หากได้รับการร้องขอจากประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

***********************

13  มกราคม  2558