ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โทร.สายด่วน 1460 / E- mail
: wmsc.1460@gmail.com / http://water.rid.go.th/wmsc
-----------------------------------------------------------------------------
ปรับแผนการใช้น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยาใหม่
ให้สอดคล้องกับสภาวะอากาศ พร้อมมาตรการช่วยเหลือพื้นที่นาปี
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่
ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา(เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์
เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสักฯ) ล่าสุด(24 มิ.ย. 58)มีปริมาณน้ำ รวมกัน
7,736 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำ ใช้การได้รวมกันประมาณ 1,040 ล้านลูกบาศก์เมตร
และระบายน้ำใช้ในกิจกรรมต่างๆ รวมกัน จำนวน 32 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า
การบริหารจัดการน้ำจนถึงปัจจุบัน พบว่าปริมาณฝนที่ตกและปริมาณน้ำที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำยังคงอยู่ในเกณฑ์น้อยมาก
กรมชลประทานได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 4 กระทรวง(เกษตรฯ มหาดไทย ทรัพยากรธรรมชาติฯ
และวิทยาศาสตร์ฯ) เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.58 ทางกรมอุตุนิยมวิทยา
และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร ได้คาดการณ์สภาพภูมิอากาศว่า
ปริมาณฝนในเดือนกรกฎาคมจะมีไม่มาก และไม่สม่ำเสมอ คาดว่าฝนจะเริ่มตกชุกในเดือน
ส.ค. และ ก.ย. 58 โดยปริมาณฝนทั้งหมดจากปัจจุบันไปจนถึงสิ้นฤดู จะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยประมาณร้อยละ
7-10 ประกอบกับในขณะนี้มีปริมาณน้ำต้นทุนเหลือเพียง 1,067 ล้านลูกบาศก์เมตร มีการใช้น้ำวันละ
33 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้มีน้ำใช้ได้เพียง 32 วัน(ถึงวันที่ 24 ก.ค.58) ซึ่งยังไม่ถึงช่วงที่ฝนตกชุกตามที่ได้คาดการณ์ไว้
ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำทั้งระบบ
ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อประเทศอย่างรุนแรง ที่ประชุมฯจึงได้มีมติปรับลดแผนการระบายน้ำจากเดิมวันละ
33 ล้าน ลบ.ม. ลงเหลือวันละ 28 ล้าน ลบ.ม. จากปริมาณน้ำต้นทุน จำนวน 1,067 ล้าน ลบ.ม. ทำให้ยืดการใช้น้ำออกไปได้ 45 วัน(ถึงวันที่ 10 ส.ค.58) โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจแล้ว
สำหรับปริมาณน้ำที่ระบายลงมานี้ จะเน้นเพื่อการอุปโภค-บริโภค
และรักษาระบบนิเวศน์ในอัตราวันละ 13 ล้าน ลบ.ม.เท่าเดิม และลดการส่งน้ำในส่วนของภาคการเกษตรจากเดิมวันละ
20 ล้าน ลบ.ม. ลงเหลือวันละ 15 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ปลูกข้าวนาปีที่ปลูกไปแล้ว
3.44 ล้านไร่ ก่อนวันประกาศขอให้ชะลอการเพาะปลูก คิดเป็นร้อยละ 25 หรือประมาณ 0.85
ล้านไร่ ทั้ง 4 กระทรวงฯ จึงได้หามาตรการแก้ไขปัญหาพื้นที่เสี่ยง 0.85 ล้านไร่ ไว้ดังนี้
- บริหารจัดการน้ำที่ได้จัดสรรไว้อย่างเข้มงวด โดยให้ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายปกครอง
และฝ่ายความมั่นคง
- พิจารณาเสริมบ่อน้ำบาดาล
ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกรมทรัพยากรน้ำบาดาล(กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม)ในพื้นที่ที่เป็นที่ดอน
- พิจารณาแนวทางสนับสนุนเกษตรกรในการขุดบ่อตอกหรือบ่อน้ำตื้นในแปลงนา
กรมชลประทาน
จึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ร่วมมือร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัด
เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาการขาดแคลนน้ำรุนแรง ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
**********************************
24
มิถุนายน 2558