http://water.rid.go.th/news/news_59_111_files/image001.jpg
 

 

 

 

 

 


กรมชลฯ ชี้แจงทำเต็มที่เร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ปากพนังตอนล่างและเมืองนครศรีธรรมราช  

 

          กรมชลประทาน ชี้แจงกรณีการนำเสนอข่าว ชาวบ้านในพื้นที่น้ำท่วมเมืองนครศรีธรรมราช ไม่มั่นใจการทำงานของชลประทาน ลำคลองสายหลักยังเต็มไปด้วยวัชพืช จนน้ำไม่สามารถระบายได้

          นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน ได้ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นว่า กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง โดยใช้ประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งได้ยกบานประตูระบายน้ำขึ้นทั้ง 10 บาน ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2559 เป็นต้นมา ตามมติที่ประชุมของคณะกรรมการบริหารจัดการประตูระบายน้ำฯ เพื่อให้ปริมาณน้ำจากพื้นที่ตอนบนไหลลงสู่อ่าวปากพนังได้เร็วขึ้น ในขณะเดียวกันก็ได้เปิดประตูระบายน้ำต่างๆ เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่อ่าวไทย อาทิ ประตูระบายน้ำฉุกเฉิน ประตูระบายน้ำท่าพญา ประตูระบายน้ำเสือหึง และประตูระบายน้ำหน้าโกฎิ เป็นต้น

ทั้งนี้ อ่าวปากพนังนอกจากจะรับน้ำจากพื้นที่น้ำท่วมในเขตอ.ปากพนังแล้ว ยังต้องรับน้ำจากคลองชะเมาที่ไหลมาจากในเขตอำเภอเมืองนครศรีธรรมราชด้วย ส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณอ่าวปากพนังอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างสูง น้ำจะไหลช้าในช่วงจังหวะน้ำทะเลขึ้น และไหลได้เร็วในช่วงที่น้ำทะเลลง ทำให้ปริมาณน้ำจากตอนบนไหลลงสู่ทะเลได้สะดวกมากขึ้น ปัจจุบันน้ำในแม่น้ำปากพนังต่ำกว่าตลิ่งและไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ 

สำหรับในเขตอ.ปากพนัง ยังมีพื้นที่อื่นๆที่ยังประสบกับปัญหาน้ำท่วมขัง ได้แก่ ต.ชะเมา ต.เกาะทวด ต.ป่าระกำ ต.บ้านใหม่ และต.บางศาลา กรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 15 ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำบริเวณ ประตูระบายน้ำบางไทร เป็นเครื่องผลักดันน้ำ 4 เครื่อง เครื่องสูบน้ำ 5 เครื่อง นอกจากนั้น ยังมีเครื่องสูบน้ำของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยนครศรีธรรมราช อีก 2 เครื่อง รวมเป็น 7 เครื่อง ซึ่งสามารถลดระดับน้ำที่ท่วมขังได้ประมาณวันละ 20 - 30 เซนติเมตร

ส่วนในพื้นที่คลองสุขุม นั้น เนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่องของวัชพืชในคลองที่มีอยู่ในปริมาณมาก ประกอบกับบริเวณปลายคลองมีความแคบเป็นคอขวด และมีน้ำจากคลองสาขาไหลลงมาสมทบจำนวนมาก ส่งผลให้ระดับน้ำลดลงได้ช้า ซึ่งกรมชลประทานไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้จัดส่งเรือขุด จำนวน 2 ลำ เข้าไปขุดลอกตักวัชพืชออกจากคลอง ตั้งแต่บริเวณประตูระบายน้ำบางจากไปจนถึงประตูระบายน้ำบางลึก รวมถึงประตูระบายน้ำสุขุมด้วย เพื่อเร่งการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำปากพนังให้เร็วที่สุด ส่วนบริเวณที่เป็นคอขวดได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มอีก 2 เครื่อง หากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่มเติม คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 4 – 5 วัน

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ขอยืนยันและให้ความมั่นใจกับประชาชนผู้ประสบปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชว่า จะดำเนินการเข้าไปช่วยเหลือเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังออกจากพื้นที่ทุกจุด อย่างเต็มความสามารถและเต็มศักยภาพที่มี เพื่อให้สถานการณ์น้ำเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

                    กรมชลประทาน

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

เวลา 07.30 น. / 15  ธันวาคม  2559