http://water.rid.go.th/news/news_59_111_files/image001.jpg 

 

 

 

 


สถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ น้ำที่ท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำลดลงต่อเนื่อง

          สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ส่วนใหญ่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนระดับน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำลดลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมเตือนรับมือฝนหนักอีกรอบในระยะนี้

          นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้เป็นอย่างมาก ได้มอบหมายให้กรมชลประทาน เข้าไปดำเนินการช่วยเหลือประชาชน ด้วยการเร่งระบายน้ำในพื้นที่ท่วมขังให้เข้าสู่ภาวะปกติให้เร็วที่สุด ปัจจุบันพื้นที่ส่วนใหญ่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว คงเหลือน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำและพื้นที่การเกษตรบางแห่ง ซึ่งกรมชลประทานได้ส่งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำ เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่แล้ว ดังนี้

          จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ฝนที่ตกหนักเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 59 ทางตอนบน ในเขตอ.ท่าฉาง อ.ไชยา และอ.ท่าชนะ วัดปริมาณฝนสูงสุดได้ 90 มิลลิเมตร 144 มิลลิเมตร และ 175 มิลลิเมตรตามลำดับ ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ลุ่มต่ำคาดว่าในช่วงเที่ยงของวันนี้ น้ำในคลองไชยาจะล้นตลิ่งเข้าท่วมบริเวณตลาดไชยา ซึ่งโครงการชลประทานสุราษฎร์ธานี ได้แจ้งเตือนไปยังเทศบาลและอบต.ในพื้นที่ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแล้ว ส่วนในพื้นที่ อ.เคียนซา อ.บ้านนาเดิม และ อ.บ้านนาสาร ยังคงมีน้ำท่วมขังบริเวณที่ลุ่มต่ำและพื้นที่การเกษตรเป็นบางแห่งริมแม่น้ำตาปี ระดับน้ำในแม่น้ำตาปียังคงมีแนวโน้มลดลง ส่วนอ.พุนพิน ระดับน้ำยังคงท่วมขังที่ลุ่มต่ำบริเวณริมแม่น้ำตาปีเช่นกัน รอการระบายลงสู่ทะเลเนื่องจากได้รับอิทธิพลของน้ำทะเลขึ้น-ลง

          จังหวัดนครศรีธรรมราช ระดับน้ำในตัวเมืองนครศรีธรรมราชและพื้นที่โดยรอบๆ ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่การเกษตรบางแห่ง สำหรับพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง มีระดับน้ำลดลงโดยเฉลี่ยประมาณ 5 – 8 เซนติเมตร การระบายน้ำออกจากพื้นที่ขึ้นอยู่กับอิทธิพลของน้ำทะเลด้วย ในส่วนของคลองระบายน้ำสายต่างๆ ระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง การระบายน้ำจะใช้ประตูระบายน้ำตามแนวคันกั้นน้ำแบ่งน้ำเค็ม-น้ำจืดระบายน้ำออกจากพื้นที่ แต่ยังมีพื้นที่ลุ่มต่ำบางส่วนที่ไม่สามารถระบายออกได้ ต้องใช้เครื่องสูบน้ำในการระบายน้ำ กรมชลประทาน ได้ส่งเครื่องสูบน้ำ รวม 64 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ รวม 44 เครื่อง รถขุดแบคโฮ รวม 10 คัน เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง

          จังหวัดสงขลา ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ รวม 3 อำเภอ ได้แก่ อ.ระโนด อ.กระแสสินธุ์ และอ.สทิงพระ โดยมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตชุมชนริมทะเลสาบ แนวโน้มระดับน้ำลดลง ถนนสายหลักและพื้นที่เศรษฐกิจไม่ได้รับผลกระทบ พื้นที่ส่วนใหญ่ได้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว กรมชลประทาน ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ รวม 52 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ รวม 10 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังแล้วเช่นกัน

          อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ภาคใต้ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนักในระยะนี้ เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณปลายแหลมญวน มีแนวโน้มว่าจะเคลื่อนลงสู่อ่าวไทยและผ่านภาคใต้ตอนล่าง ในช่วงวันที่ 15 -16 ธ.ค. 59 และมีแนวโน้มอ่อนกำลังลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ซึ่งกรมชลประทาน ได้ให้ทุกโครงการชลประทานเฝ้าระวัง ติดตาม และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

*********************************

                    กรมชลประทาน

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

เวลา 13.30 น. / 16  ธันวาคม  2559