http://water.rid.go.th/news/news_59_111_files/image001.jpg 

 

 

 

 

 

 

กรมชลฯชี้แจงการแจ้งเตือนท้ายอ่างฯห้วยน้ำใส ทำอย่างต่อเนื่องไม่ละเลย

          กรมชลประทาน ชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่ข้อความทางโซเซียลมีเดีย น้ำล้นอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส จะไหลลงไปสมทบกับน้ำบริเวณอำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ในภาวะวิกฤติและเขื่อนรับน้ำไม่ไหว จะกลายเป็นระเบิดเวลา และกรมชลฯไม่มีการแจ้งเตือนชุมชนทางตอนล่างท้ายเขื่อน นั้น

นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน ได้ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นว่า กรมชลประทาน ได้มีการติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับรายงานสถานการณ์น้ำในแต่ละพื้นที่ให้กับทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งข่าวสารและแจ้งเตือนไปยังประชาชนในพื้นที่ให้ได้รับทราบข้อเท็จจริงอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงกรณีของอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส ซึ่งมีน้ำล้นทางระบายน้ำ(Spillway) มาตั้งแต่น้ำท่วมเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม 2560 ที่ผ่านมา ปัจจุบันระดับน้ำที่ล้นทางระบายน้ำล้น ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องอยู่ในระดับสันทางระบายน้ำล้น

ทั้งนี้ จากการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. 60 ที่ผ่านมาในบริเวณตอนบนของอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯจำนวนมาก ส่งผลให้มีน้ำล้นทางระบายน้ำเพิ่มมากขึ้น แต่ปริมาณน้ำส่วนใหญ่ยังถูกเก็บชะลอไว้ในอ่างฯ มีเพียงบางส่วนที่ไหลออกทางระบายน้ำล้น ซึ่งเป็นลักษณะปกติที่เกิดขึ้น โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของตัวเขื่อนแต่อย่างใด ส่วนปริมาณน้ำที่ไหลล้นออกมา จะไหลลงสู่คลองไม้เสียบที่มีฝายไม้เสียบตั้งอยู่ และเป็นจุดที่กรมชลประทานใช้เป็นจุดเฝ้าระวังแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำไปยังประชาชน ซึ่งในครั้งนี้เมื่อปริมาณน้ำล้นทางระบายน้ำล้นอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใสมากขึ้น และมีแนวโน้มว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านฝายไม้เสียบเกินกว่า 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สำนักงานชลประทานที่ 15 ได้มีหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 20 ม.ค. 60 ไปยังนายอำเภอชะอวด  และผู้นำชุมชนต่างๆ เพื่อให้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้พร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ เนื่องจากน้ำจะใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 6-8 ชั่วโมง มาถึงจุดเสี่ยงภัยบริเวณตำบลเกาะขันธ์ ตำบลท่าประจะ ตำบลชะอวด รวมไปถึงในเขตเทศบาลตำบลชะอวด อำเภอชะอวด ทำให้ประชาชนสามารถขนย้ายสิ่งของทรัพย์สินมีค่า รวมทั้งสัตว์เลี้ยงไว้บนที่สูงได้อย่างทันท่วงที

กรมชลประทาน ขอย้ำว่าอ่างเก็บน้ำที่อยู่ในความดูแลของกรมชลประทาน นั้น มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้มีการปล่อยปะละเลยแต่อย่างใด พร้อมกันนี้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำในปริมาณมาก และมีแนวโน้มว่าน้ำจะล้นทางระบายน้ำล้น ลงไปส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายอ่างฯ โครงการชลประทานในพื้นที่ที่รับผิดชอบ ได้มีการแจ้งเตือนเป็นเอกสารรายงานไปยังจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมไปกับการแจ้งเตือนผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ท้ายอ่างเก็บน้ำให้รับทราบสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้การแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ลดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้เป็นอย่างมาก

 

*****************************************

 

กรมชลประทาน

เวลา 11.00 . / 21 มกราคม 2560