http://water.rid.go.th/news/news_59_111_files/image001.jpg 

 

 

 

 


น้ำท่วมสุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช หลายพื้นที่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว  

          สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ที่สุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช หลายพื้นที่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังต้องติดตามฝนตกรอบใหม่อย่างใกล้ชิด พร้อมเร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง เพิ่มพื้นที่รอรับฝนใหม่

นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์สภาวะอากาศระยะนี้ว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 23-25 มกราคม 2560 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ในภาคใต้ตอนล่างบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

ด้านพล.อ.ฉัตรชัย  สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยพี่น้องในพื้นที่ภาคใต้ที่ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมเป็นอย่างมาก ได้มอบหมายให้กรมชลประทานนำเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ ลงไปติดตั้งเพิ่มเติมจากของเดิมที่มีอยู่แล้ว เพื่อเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฝนตกรอบใหม่

          ทั้งนี้ จากการติดตามสภาพฝนในพื้นที่ภาคใต้ พบว่าปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ต่างๆ ในวันที่ 23 ม.ค. 60 อยู่ในเกณฑ์ไม่มากนัก วัดปริมาณฝนสูงสุดในพื้นที่ต่างๆ ได้ ดังนี้ สุราษฎร์ธานี 15 มิลลิเมตร ตรัง 6 มิลลิเมตร นครศรีธรรมราช 21 มิลลิเมตร ปัตตานี 4 มิลลิเมตร และนราธิวาส 42 มิลลิเมตร แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังมีแนวโน้มว่าจะมีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ไปจนกว่าจะถึงวันที่ 25 ม.ค. 60 นี้

          สำหรับสถานการณ์น้ำท่วม ปัจจุบันคงเหลือพื้นที่น้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำบางแห่ง บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ซึ่งกรมชลประทาน ยังคงเดินหน้าระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนครศรีธรรมราช บริเวณอำเภอรอบนอกและอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช สถานการณ์น้ำเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว คงเหลือพื้นที่ลุ่มต่ำของลุ่มน้ำปากพนังตอนล่าง ที่ยังมีน้ำท่วมขังประมาณ 551 ล้านลูกบาศก์เมตร กรมชลประทาน ได้ใช้เครื่องสูบน้ำ 112 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 69 เครื่อง และได้รับสนับสนุนเรือผลักดันน้ำจากกองทัพเรืออีก 60 ลำ เร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่ม คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติใน 1 สัปดาห์

          ส่วนสุราษฎร์ธานี ระดับน้ำในแม่น้ำตาปี บริเวณอ.พระแสง อ.เคียนซา และอ.พุนพิน มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง คงเหลือปริมาณน้ำที่ท่วมขังประมาณ 60 ล้านลูกบาศก์เมตร ได้มีการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 32 เครื่อง เร่งระบายน้ำให้ลงสู่ทะเลโดยเร็ว คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3 – 4 วันนี้

          อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนักอีกระลอก ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนไว้ว่า ซึ่งกรมชลประทาน ยังคงเดินหน้าระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เครื่องสูบน้ำออกปฏิบัติการทั้งหมด 170 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำอีก 112 เครื่อง เพื่อให้มีพื้นที่ว่างสำหรับรองรับปริมาณฝนที่จะตกลงมาอีก โดยจะไม่เกิดผลกระทบน้ำท่วมเพิ่มขึ้นจากเดิมมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม ได้ให้ทุกโครงการชลประทานในพื้นที่เสี่ยงภัยภาคใต้ ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำ พร้อมทั้งรายงานสถานการณ์ไปยังจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมรับมือต่อไปแล้ว

******************************

กรมชลประทาน 

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

เวลา 15.30 น. / 24 ม.ค. 60