http://water.rid.go.th/news/news_59_111_files/image001.jpg 

 

 

 

 


กรมชลฯ ชี้แจงกรณีการระบายน้ำเขื่อนป่าสักฯ มากเกินไปในช่วงฤดูฝน 

          กรมชลประทาน ชี้แจงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่า ในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา มีการระบายน้ำจากเขื่อนมากเกินไป โดยเฉพาะเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และต้นปีมีปริมาณน้ำเหลือ 630 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งที่เขื่อนสามารถเก็บน้ำได้ 1,050 ล้านลูกบาศก์เมตร นั้น  

นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน ได้ชี้แจงในเรื่องนี้ว่า ในช่วงปลายฤดูฝนปี 2559 ที่ผ่านมา เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี มีปริมาณน้ำเต็มความจุที่ระดับเก็บกัก 960 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องจากในขณะนั้นบริเวณด้านเหนือเขื่อนป่าสักฯ ยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนจำนวนมาก จำเป็นต้องบริหารจัดการน้ำ เพื่อรักษาสมดุลระหว่างน้ำเหนือเขื่อนและปริมาณน้ำท้ายเขื่อน รวมทั้งเพื่อรักษาความมั่นคงของตัวเขื่อนด้วย ทำให้มีความจำเป็นต้องระบายน้ำส่วนเกินออกจากเขื่อน โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายเขื่อน จนมาถึงต้นฤดูแล้ง ณ วันที่ 1 พ.ย. 59 เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 991 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 103 ของความจุที่ระดับเก็บกัก ซึ่งเป็นการชะลอน้ำส่วนเกินนี้ไว้ได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อความปลอดภัยของเขื่อน

อนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 59 เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ได้มีการระบายน้ำเพื่อสนับสนุนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งในลุ่มน้ำเจ้าพระยา และผลักดันน้ำเค็มไปแล้ว รวม 613 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบัน(1 มี.ค. 60) เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 557 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 58 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 554 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 58 ของปริมาณน้ำใช้การได้ ซึ่งเพียงพอที่จะสนับสนุนการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศในลุ่มน้ำป่าสักและลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างตลอดในช่วงฤดูแล้งนี้ จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

 

*****************************************

กรมชลประทาน

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 1  มีนาคม  2560