http://water.rid.go.th/news/news_59_111_files/image001.jpg 

 

 

 


กรมชลฯ วอนเกษตรกรลุ่มน้ำเจ้าพระยา พักการทำนาปรังต่อเนื่อง

          กรมชลประทาน ขอความร่วมมือเกษตรกรลุ่มน้ำเจ้าพระยา พักการทำนารอบที่ 3(นาปรังรอบที่ 2) หลังพบพื้นที่นาปรังเกินแผนไปแล้วกว่า 2 เท่า ย้ำปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลัก มีเพียงพอใช้เฉพาะการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศเท่านั้น  

          นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำ ในเขื่อนขนาดใหญ่และขนาดกลาง  ทั้งประเทศว่า ปัจจุบัน(14 มี.ค. 60) มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำรวมกันทั้งสิ้น 45,673 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 61 ของความจุอ่างฯรวมกันทั้งหมด และมีปริมาณน้ำใช้การได้ 21,854 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 43 ของความจุอ่างฯรวมกัน มากกว่าปี 2559 รวม 7,941 ล้านลูกบาศก์เมตร

          สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปัจจุบัน(14 มี.ค. 60) ปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลัก(เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสักฯ) มีปริมาณน้ำใช้การได้ รวมกัน 6,624 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 36 ของปริมาณน้ำใช้การ กรมชลประทาน ได้วางแผนจัดสรรน้ำเพื่อสนับสนุนการใช้น้ำในช่วงฤดูแล้งของลุ่มน้ำเจ้าพระยา(1 พ.ย. 59 – 30 เม.ย 60) รวมทั้งสิ้น 5,950 ล้านลูกบาศก์เมตร ผลการจัดสรรน้ำฤดูแล้งในลุ่มน้ำเจ้าพระยา จนถึงขณะนี้มีการใช้น้ำไปแล้ว 4,694 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 79  ของแผนการจัดสรรน้ำฯ มากกว่าแผนที่วางไว้ รวม 490 ล้านลูกบาศก์เมตร

ในส่วนของการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งในลุ่มน้ำเจ้าพระยาว่า ปัจจุบันมีการทำนาปรังไปแล้ว 5.35 ล้านไร่ มากกว่าแผนที่วางไว้ 2.68 ล้านไร่(แผนการเพาะปลูกข้าวนาปรังลุ่มน้ำเจ้าพระยากำหนดไว้ 2.67 ล้านไร่) จะเห็นได้ว่าพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา เกินแผนไปแล้วกว่า 2 เท่า ทำให้มีการดึงน้ำจากภาคการใช้น้ำอื่นๆ ไปใช้ทำการเพาะปลูกมากขึ้น หากยังมีการเพิ่มพื้นที่เพาะปลูก จะกระทบต่อปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่อย่างจำกัด และอาจทำให้ผลผลิตเสียหายจากภาวะขาดแคลนน้ำได้ จึงขอให้เกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา พักการทำนารอบที่ 3(นาปรังรอบที่ 2) โดยขอให้อดใจรอไปทำนาปีพร้อมกันในช่วงต้นฤดูฝนหน้าที่จะถึงนี้ และขอให้ทุกภาคส่วนรณรงค์ให้มีการใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่เพียงพอใช้ไปจนถึงต้นฤดูฝนหน้าด้วย

          นอกจากนี้ กรมชลประทาน ยังได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ภัยแล้งที่จะเกิดขึ้น โดยการจัดเตรียมรถบรรทุกน้ำและเครื่องสูบน้ำ กระจายอยู่ในพื้นที่โครงการชลประทานทั่วประเทศ ดังนี้ รถบรรทุกน้ำ 295 คัน แยกเป็นภาคเหนือ 55 คัน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 90 คัน ภาคกลางรวมภาคตะวันออกและตะวันตก 114 คัน และภาคใต้ 36 คัน ปัจจุบันมีรถบรรทุกน้ำออกปฏิบัติไปการแล้ว 33 คัน สำหรับเครื่องสูบน้ำ ได้จัดเตรียมไว้ทั้งสิ้น 1,900 เครื่อง แยกเป็นภาคเหนือ 280 เครื่อง ภาคตะวันตะวันออกเฉียงเหนือ 374 เครื่อง ภาคกลางรวมภาคตะวันออกและตะวันตก 395 เครื่อง ภาคใต้ 191 เครื่อง และสำรองไว้ที่ส่วนกลางอีก 660 เครื่อง ปัจจุบันมีเครื่องสูบน้ำออกปฏิบัติการแล้ว 206 เครื่อง 

กรมชลประทาน

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 15  มีนาคม  2560