http://water.rid.go.th/news/news_59_071_files/image001.jpg

 

 

 

 

 

สถานการณ์น้ำและการช่วยเหลือเร่งระบายน้ำในพื้นที่ท่วมขังต่อเนื่อง

           สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำสายหลักต่างๆ ระดับน้ำต่ำยังคงกว่าตลิ่ง ส่วนการทำนาปีพื้นที่ลุ่มต่ำเจ้าพระยาตอนล่าง มีการเพาะปลูกไปแล้วกว่าร้อยละ 92

           นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ ปัจจุบัน(2 มิ.ย. 60)มีปริมาณน้ำในอ่างฯรวมกันทั้งสิ้น 41,224 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 55 ของความจุอ่างฯ ปริมาณน้ำปีนี้มากกว่าปี 2559 รวม 8,465 ล้าน ลบ.ม. มีปริมาณน้ำใช้การได้ 17,404 ล้าน ลบ.ม.  คิดเป็นร้อยละ 34 (ปี 2559  มีน้ำใช้การได้ 9,019 ล้าน ลบ.ม.)  เขื่อนใหญ่ทั้งประเทศยังสามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 33,900 ล้านลูกบาศก์เมตร เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลักมีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 11,022 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 44 ของความจุอ่างฯ ปริมาณน้ำปีนี้มากกว่าปี 2559 รวม 2,938 ล้าน ลบ.ม. มีปริมาณน้ำใช้การได้ 4,326 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 24 (ปี 2559 มีน้ำใช้การได้ 1,388 ล้าน ลบ.ม.) 4 เขื่อนหลัก ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า  13,800 ล้านลูกบาศก์เมตร

           สำหรับสภาพน้ำท่าในแม่น้ำสายหลัก ส่วนใหญ่ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่งและสามารถรองรับน้ำได้อีกมาก อาทิ แม่น้ำปิง ที่สถานี P.1 อ.เมืองเชียงใหม่ ระดับน้ำต่ำว่าตลิ่ง 2.23 เมตร ,สถานี P.7A อ.เมืองกำแพงเพชร ระดับน้ำต่ำว่าตลิ่ง 5.11 เมตร และสถานี P.17 อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำต่ำว่าตลิ่ง 2.93 เมตร แม่น้ำวัง ที่สถานี W.1C อ.เมืองลำปาง ระดับน้ำต่ำว่าตลิ่ง 4.35 เมตร แม่น้ำยม ที่สถานี Y.1C อ.เมือง จ.แพร่ ระดับน้ำต่ำว่าตลิ่ง 7.41 เมตร ,และสถานี Y.4 อ.เมือง จ.สุโขทัย ระดับน้ำต่ำว่าตลิ่ง 5.07 เมตร แม่น้ำน่าน ที่สถานี N.1 อ.เมืองน่าน ระดับน้ำต่ำว่าตลิ่ง 8.39 เมตร และสถานี N.67 อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำต่ำว่าตลิ่ง 5.14 เมตร ปริมาณน้ำทั้งหมดจะไหลมารวมกันที่แม่น้ำเจ้าพระยาจ.นครสวรรค์ โดยที่สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ ระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่ง 5.71  เมตร กรมชลประทานได้ควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ 719 ลบ.ม./วินาที ยังไม่ส่งกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายเขื่อน ส่วนที่สถานี C.29A อ.บางไทร ซึ่งเป็นจุดวัดปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านลงสู่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 881 ลบ.ม./วินาที(รับน้ำได้สูงสุด 3,500 ลบ.ม./วินาที)

ในส่วนของสถานการณ์น้ำท่วม ปัจจุบันมีพื้นที่น้ำท่วมรวม 7 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย นครสวรรค์ ชลบุรี สุพรรณบุรี และพระนครศรีอยุธยา สรุปได้ดังนี้ ในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ยังคงมีน้ำค้างทุ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งไม่ได้ทำการเกษตร ในเขตอ.คีรีมาศ ระดับน้ำลดลงเหลือ 0.20 – 0.30 เมตร กรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่อง เพื่อสูบระบายน้ำลงสู่แม่น้ำยม พร้อมกันนี้ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการสำรวจพื้นที่ที่เกิดปัญหาคุณภาพน้ำเน่าเสียเพื่อเร่งสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็วต่อไป

          จังหวัดพิษณุโลก ยังคงมีน้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำทุ่งบางระกำ กรมชลประทานได้ปิดการรับน้ำจากแม่น้ำน่าน พร้อมกับประสานกับกฟผ.ลดการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ จากวันละ 23 ล้าน ลบ.ม. ลดลงมาอย่างต่อเนื่องจนเหลือวันละ 5 ล้าน ลบ.ม. ทำให้การระบายน้ำจากแม่น้ำยมที่รับน้ำบางส่วนจากพื้นที่อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย ลงสู่คลอง DR-15.8 และคลอง DR-2.8 ลงสู่แม่น้ำน่านไหลได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังได้นำรถไฮโดรลิคเสริมคันกั้นน้ำจุดสุ่มเสี่ยง 4 คัน และติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 30 เครื่อง เร่งระบายน้ำที่ท่วมขังอย่างต่อเนื่อง

          จังหวัดพิจิตร มีพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังบริเวณอำเภอโพธิ์ประทับช้าง ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำที่ติดกับแม่น้ำยมทางด้านตะวันตก มีน้ำท่วมขังประมาณ 0.50 – 0.80 เมตร โครงการชลประทานพิจิตร ได้ร่วมกับส่วนเครื่องจักรกล สำนักงานชลประทานที่ 3 สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ 5 เครื่อง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่องแล้ว

 จังหวัดนครสวรรค์ ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณต.บางเคียน อ.ชุมแสง 1,500 ไร่ ระดับน้ำท่วมขังประมาณ 0.30 - 0.50 เมตร กรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง บริเวณประตูระบายน้ำคลองบางหว้า เพื่อสูบน้ำออกจากพื้นที่การเกษตรแล้ว

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พื้นที่น้ำท่วมขังบริเวณทุ่งบางบาล ลดลงเหลือประมาณ 13,000 ไร่ หลังจากที่กรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ จำนวน 21 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำอีก 6 เครื่อง บริเวณอำเภอบางบาล   เพื่อเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในทุ่งลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา หากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่มเติม คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3 – 5 วันข้างหน้า

จังหวัดสุพรรณบุรี ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำการเกษตร ในเขตอ.สองพี่น้อง อ.บางปลาม้า อ.เมือง  และอ.อู่ทอง ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร โครงการชลประทานสุพรรณบุรี ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 15 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำอีก 6 เครื่อง พร้อมเดินเครื่องสูบน้ำที่ติดตั้งอยู่ที่ปตร.สองพี่น้องอีก 6 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุดแล้ว

จังหวัดชลบุรี ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำการเกษตร ในเขตอ.พนัสนิคม ระดับน้ำสูง 0.10 – 0.30 เมตร เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำจากลุ่มน้ำคลองหลวงและน้ำที่มาจากอ.บ้านบึง โครงการชลประทานชลบุรี ได้ส่งเครื่องสูบน้ำ    8 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำ โดยนำไปติดตั้งบริเวณประตูระบายน้ำคลองพานทอง 4 เครื่อง และประตูระบายน้ำปลายคลองชลประทานพานทอง อีก 4 เครื่อง พร้อมกับใช้สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า(บางแสม) เร่งสูบระบายน้ำลงสู่แม่น้ำบางปะกงอย่างต่อเนื่อง

กรมชลประทาน ยังคงเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นไปในพื้นที่ที่มีโอกาสจะเกิดน้ำท่วมสูง ก่อนจะนำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งเตรียมพร้อมที่จะสูบระบายน้ำได้ตลอดเวลาหากเกิดฝนตกหนักและมีระดับน้ำสูงขึ้น สำหรับพื้นที่ใดที่ประชาชนต้องการให้กรมชลประทาน เข้าไปช่วยเหลือเรื่องการระบายน้ำ สามารถประสานขอความความช่วยเหลือไปยังโครงการชลประทานหรือโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาใกล้บ้านท่านได้ตลอดเวลา

 

****************************************

 

กรมชลประทาน

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

2 มิถุนายน 2560